ปฎิกริยาต่างชาติ ต่อการยกเลิกกฎอัยการศึกของไทย

กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ แถลงแสดงความยินดีและชื่นชมที่รัฐบาลไทย ภายใต้การบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก แต่ขณะเดียวกัน ก็ระบุว่า ดูเหมือนมาตรการใหม่ที่บังคับใช้แทนที่ ไม่ได้ผ่อนปรนจากเดิมมากนัก โดยเฉพาะในเรื่องการนำพลเรือนขึ้นศาลทหาร, การควบคุมตัวชั่วคราวโดยปราศจากการตั้งข้อหา และข้อบังคับอื่นๆ ที่ยังจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกของประชาชน รวมทั้งการชุมนุมทางการเมืองอย่างสันติด้วย
ถ้อยแถลงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ถูกเผยแพร่ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังพลเอกประยุทธ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติเมื่อคืนวันพุธ ประกาศยกเลิกการใช้กฎอัยการศึก หลังบังคับใช้มานาน 10 เดือน นับตั้งแต่ก่อนการรัฐประหารเมื่อปีที่แล้ว และบังคับใช้มาตรา 44 ที่มอบอำนาจให้พลเอกประยุทธ์ สามารถออกคำสั่งพิเศษ ปราบปรามภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศได้ทันที และเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้โดยไม่ต้องใช้หมายศาลและการตั้งข้อหา
ด้านสำนักข่าวต่างประเทศ พากันชี้ว่า มาตรการใหม่ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานอ้างความเห็นของตัวแทนจากกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ที่แม้จะแสดงความยินดีที่มีการประกาศยกเลิกกฎอัยการศึก แต่ก็แสดงความวิตกว่า ข้อจำกัดด้านสิทธิขั้นพื้นฐานจะไม่ได้รับการผ่อนปรนภายใต้มาตรการใหม่ และแนะนำด้วยว่า ควรเปิดให้มีการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสันติ รวมทั้งยุติวิธีการต่างๆ เช่น การพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร และการควบคุมตัวโดยไม่มีการตั้งข้อหา
ส่วนสำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า พลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีของไทย แถลงยกเลิกกฎอัยการศึกผ่านสถานีโทรทัศน์ ท่ามกลางเสียงร่ำร้องจากภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่สำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างยิ่ง และมันจะถูกแทนที่ด้วยคำสั่งด้านความมั่นคงใหม่ ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะกลุ่มสิทธิมนุษยชนว่า อาจเป็นการให้อำนาจแก่กองทัพมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ