นายกฯ โชว์วิชั่น ชูไทย + 1 เป็นศูนย์กลางอาเซียน

จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ร่วมกับ The Wharton School มหาวิทยาลัย Pennsylvania ว่า เรื่องการเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศนั้น เนื่องจากประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้ก่อตั้งสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (ASEAN) ร่วมกับฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เมื่อปี 2510 นับตั้งแต่นั้นมาประเทศไทยมีบทบาทเชิงรุกในการผลักดันให้สมาคมอาเซียนปรับเปลี่ยนโครงสร้างและการดำเนินการให้สอดคล้องกับเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปของภูมิภาคและระดับโลก
"ผมได้พูดในการประชุมที่มิลานประเทศอิตาลีหรือในการประชุมที่อื่นๆ เสมอว่า ผมไม่ได้มีเฉพาะกับประเทศไทยเท่านั้น แต่ผมมีหน้าที่กับอาเซียนและประชาคมโลกอื่น ๆ ด้วย เพราะความเป็นมนุษยชาติของโลกเพราะฉะนั้นต้องคิดถึงตรงนี้ให้เราด้วย โดยเฉพาะประชาคมตะวันออก ตะวันตก ต้องเข้าใจในความแตกต่าง เพราะการตัดเสื้อจะใช้ใส่ตัวเดียวกันทุกคนไม่ได้ ต้องตัดหลายขนาด ดังนั้นจึงต้องมีช่างตัดเสื้อ เพราะฉะนั้นอย่างตัดเสื้อตัวเดียวให้คนทั้งโลกใส่ มันทำไม่ได้ เพราะแต่ละประเทศมีปัญหาแตกต่างกัน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ทั้งนี้ โดยมีเป้าประสงค์เพื่อความเจริญก้าวหน้า ความมั่นคง และความวัฒนาถาวรของประชาคมอาเซียน เป็นสำคัญ ผ่านการมีส่วนร่วมในความร่วมมือต่างๆ รวมถึงการผลักดันอาเซียนให้มีความเข้มแข็ง ทั้งในด้านการเมืองและความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมถึงการประสานความร่วมมือกับประเทศอื่นๆ ภายนอกอาเซียน ดังปรากฎให้เห็นในรูปแบบของความร่วมมืออาเซียน+3 ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ และความร่วมมือ อาเซียน +6 ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์และอินเดีย ประเทศไทยกำลังถูกจับตามองจากภายนอก ในการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน ท่ามกลางตลาดการค้าขนาดใหญ่ของอาเซียนซึ่งมีกำลังซื้อ รวมมากกว่า 600 ล้านคน
"วันนี้เราต้องสร้างความแข็งแกร่งทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน ซึ่งการลงทุนหรือการเจรจาอะไรก็ตาม ขอให้เป็น ไทย+ 1 ไม่ว่าจะเป็น ไทยไปพม่า ไทยไปมาเลเซีย ไทยไปลาว ไทยไปกัมพูชา รวมถึงประเทศรอบบ้านทั้งหมด ซึ่งจะได้ผลกลับย้อนมา เช่น เป็นพม่า + 1 เป็นต้น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว