svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เอนก"มั่นใจผลถอดถอน "ยิ่งลักษณ์" ไม่กระทบปรองดอง

24 มกราคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

รัฐสภา 23 ม.ค.58 เอนก มั่นใจผลถอดถอน ยิ่งลักษณ์ ไม่กระทบงานปรองดอง ด้าน กมธ.ยกร่างรธน. วิเคราะห์ทิศทางการเมือง ไม่ยุ่ง เหตุ 308อดีตสมาชิกรัฐสภาไม่หนุนการเคลื่อนไหวของ เพื่อไทย ชี้คดีโกงจำนำข้าว รมต. ติดคุกแน่ ยิ่งลักษณ์จ่อรอด

นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาแนวทางการสร้างความปรองดอง เชื่อว่าการผลลงมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้ออกจากตำแหน่งของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และส่งผลให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ถูกเพิกถอนสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา5ปี นั้นจะไม่กระทบกับการวางแนวทางเพื่อสร้างความปรองดองที่เตรียมดำเนินการแน่นอน เพราะประเด็นและสถานการณ์การเมืองที่จะเกิดขึ้นถือเป็นคนละส่วนกับแนวทางปรองดองที่จะดำเนินการ ส่วนเหตุการณ์ทางการเมืองจะหลายฝ่ายมองว่าจะวุ่นวายนั้น ตนไม่ทราบ แต่รัฐบาลและฝ่ายทหารต้องดูแล ด้าน แหล่งข่าวจากกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่ได้ติดตามการกระบวนการถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ , นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตรองประธานรัฐสภา ให้ออกจากวาระการดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามกระบวนการของ สนช. ว่า ผลการลงมติที่สรุแล้วว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ถูกลงมติให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่นายสมศักดิ์ และนายนิคม ผลลงมติสรุปคือไม่ถอดถอนให้ออกจากตำแหน่ง ทำให้สะท้อนถึงภาพทางการเมืองและการวางยุทธศาสตร์ทางการเมืองของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คือ การพิจารณาถอดถอน อดีตสมาชิกรัฐสภา ที่ถูกยื่นให้ตรวจสอบโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 308 คนและอยู่ในกระบวนการของ สนช.แล้ว จำนวน 38 รายจะถูกพิจารณาต่อไปหรือไม่ หากวิเคราะห์แล้วจะเห็นชัดว่าเมื่อนายสมศักดิ์และนายนิคมไม่ถูกถอดถอนจากตำแหน่งแล้วอดีตสมาชิกรัฐสภาที่เหลืออาจมีผลไปทำนองเดียวกัน ทำให้กลุ่มดังกล่าวลังเลที่จะเข้าไปเป็นแนวร่วมหรือกลุ่มสนับสนุนการเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคเพื่อไทย เพราะถือว่าตนเองได้พ้นจากการถูกถอดถอนไปแล้ว และเชื่อว่าจะปล่อยให้กลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวกับกับการถูกยื่นให้ดำเนินคดีอาญา ร่วมกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ เช่น อดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในประเด็นการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ในชั้นการพิจารณาของศาลฏีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยการพิจารณาในชั้นศาลนั้นต้องใช้ข้อเท็จจริงเป็นหลัก ดังนั้นเชื่อว่ากรณีโครงการรับจำนำข้าวจะไม่สามารถเอาผิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ แต่รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต้องมีอย่างน้อย 1 คนที่ถูกเอาผิด และลงโทษถึงขั้นจำคุกแน่นอน โดยตัวเลือกที่จะเกิดขึ้นคือนักการเมืองทั้ง 3 คนที่กล่าวไปแล้ว คดีนี้สามารถพิจารณาเทียบเคียงกับคดีทุจริตที่ผ่านมา เช่น คดีทุจริตโครงการสร้างโรงบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่นักการเมืองระดับรัฐมนตรีใหญ่ที่ร่วมกระทำความผิดด้วยไม่ได้รับโทษ มีเพียงนักการเมืองระดับเล็กรับผิดเพียงคนเดียว แหล่งข่าววิเคราะห์

logoline