โอบามาแถลงนโยบาย เน้นกระจายรายได้

ประธานาธิบดีโอบามาแถลงนโยบายประจำปีต่อสมาชิกสภาสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภาเป็นครั้งแรกระหว่างการดำรงตำแหน่ง โดยบอกว่าใน 15 ปีแรกของศตวรรษที่ 21 อเมริกันเผชิญทั้งภัยก่อการร้าย สงครามยืดเยื้อยาวนาน และเศรษฐกิจถดถอย แต่คืนนี้ถึงจุดเปลี่ยนแล้ว เศรษฐกิจขยายตัวและมีอัตราการสร้างงานสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2542 และสหรัฐพึ่งพาน้ำมันจากต่างชาติน้อยกว่าเมื่อกว่า 30 ปีก่อน นอกจากนี้อัตราว่างงานลดลงเหลือเพียง 5.6%
พร้อมกันนี้เขาประกาศเป้าหมายต่อไปว่าจะแก้ไขปัญหาช่องว่างด้านรายได้ที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยประกาศดำเนินนโยบายเศรษฐกิจเพื่อชนชั้นกลางด้วยการปรับขึ้นภาษีสำหรับคนรวย เพิ่มการยกเว้นภาษีให้กับครอบครัวชนชนชั้นกลาง ปรับขึ้นรายได้ขั้นต่ำ และเพิ่มสวัสดิการในสถานที่ทำงาน รวมทั้งเพิ่มวันลาป่วยลาคลอด และจัดหาสถานรับเลี้ยงเด็กที่ค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก นอกจากนี้จะทำให้ผู้หญิงมีรายได้เท่าเทียมกับผู้ชาย
ตลอดถ้อยแถลงเขาเรียกร้องให้สภาคองเกรสที่มีรีพับลิกันคุมเสียงข้างมากทำงานร่วมกันด้วยการประนีประนอม แต่ยืนยันพร้อมวีโต้ความพยายามใดๆที่จะล้มกฎหมายประกันสุขภาพและกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของเขา ขณะที่คาดว่าข้อเสนอหลายเรื่องอาจเป็นจริงได้ยากเพราะต้องเผชิญเสียงคัดค้านจากรีพับลิกันอย่างหนัก แต่คาดว่าประเด็นการกระจายรายได้อาจส่งผลดีต่อผู้สมัครของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2559 
นอกจากนี้โอบามายังกล่าวถึงนโยบายต่างประเทศด้วย โดยปกป้องการตัดสินใจที่จะฟื้นฟูความสัมพันธ์ระดับปกติกับคิวบา และย้ำเป้าหมายที่จะปิดเรือนจำที่อ่าวกวนตานาโมในคิวบา และเรียกร้องให้สภาคองเกรสให้อำนาจเขาในการทำสงครามกวาดล้างกลุ่มไอเอส เขายังกล่าวถึงเหตุการณ์โจมตีสำนักงานหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เอบโดในฝรั่งเศสด้วยและสมาชิกสภาบางคนลุกขึ้นยืนโดยชูดินสอสีเหลืองเพื่อร่วมแสดงจุดยืนสนับสนุนเสรีภาพการพูด
ขณะที่พรรครีพับลิกันแสดงจุดยืนยันคัดค้านนโยบายเศรษฐกิจของโอบามาทันที โดยโดยเฉพาะประเด็นปรับขึ้นภาษี และบางคนกล่าวหาว่าถ้อยแถลงของโอบามาดูเป็นการหาเสียงมากกว่าแถลงนโยบายต่อสภา
ส่วนผลสำรวจความนิยมก่อนการแถลงของโอบามา ที่จัดทำโดยวอชิงตัน โพสต์ และ ABC นิวส์ และเผยแพร่เมื่อวันจันทร์พบว่า มีผู้พอใจผลงานของเขา 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดีที่สุดนับตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิ 2556 ขณะที่ผลสำรวจของสำนักอื่นๆ รวมทั้ง CNN ร่วมกับ ORC ชี้่ว่า คะแนนนิยมของเขาเพิ่มสูงขึ้นในรอบ 20 เดือน ปัจจัยสำคัญที่หนุนคะแนนนิยมของเขา คือ เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น