นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีต ส.ส. พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้มาชี้แจง คณะกรรมาธิการซักถาม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ด้วยตัวเองแต่ส่งทีมทนายกับอดีตรัฐมนตรีมาแทนว่า ตนคาดไว้แล้วว่าคงไม่มาชี้แจงเองแน่นอน เพราะถ้าหากเป็นการตั้งคำถามเฉพาะหน้า ก็อาจจะลำบากสำหรับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในการสื่อสารกับข้อมูลที่ถาม และถ้ามีการสื่อสารฝ่ายเดียว น.ส. ยิ่งลักษณ์จะพยายามดราม่าหรือพยายามโน้มน้าวคนให้รู้สึกเห็นใจ
นพ.วรงค์ กล่าวว่า เพราะฉะนั้นในวันนี้ ถ้าเป็นการซักถามข้อมูลในเชิงข้อเท็จจริง ก็ยากที่จะมาตอบข้อซักถามด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะให้ทีมทนายความหรืออดีตรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามแทน และก็ไม่แปลกที่จะบอกว่าในวันที่ 23 ม.ค. ซึ่งเป็นการแถลงปิดคดีจะมาตอบด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่มีการซักถาม แต่เป็นการสื่อสารฝ่ายเดียว สามารถใช้อารมณ์ความรู้สึกขอความเห็นใจได้ ทั้งที่ในข้อเท็จจริงนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะตอบไม่ได้ โดยจะบอกในรูปแบบว่าจะช่วยคนจนและช่วยชาวนา เพราะฉะนั้นในมุมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์มา จึงจะเป็นรูปการแบบนี้อย่างเดียว
ส่วนกระแสข่าวที่ว่าเสียงถอดถอนอาจจะได้ไม่ถึง 3 ใน 5ของจำนวนสมาชิก สนช. นพ.วรงค์ กล่าวว่าสุดท้ายแล้วก็เป็นความรับผิดชอบของ สนช. และหนีไม่พ้นคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะต้องเข้ามาเก็บกวาดประเทศ กวาดบ้านกวาดเมืองและประเทศไทยก็มีปัญหาทุจริตมานาน ปัญหาเรื่องการทุจริต คอรัปชั่น ประเทศไทยอยู่ในเกณฑ์ติดลบมานาน เพราะฉะนั้นหากเราหลงประเด็นที่เขานำเรื่องปรองดองมาอ้าง ซึ่งเป็นเทคนิคของการข่มขู่มากกว่า ถ้าสมมติว่า คสช. ไม่สามารถที่จะแก้ปัญหานี้ได้ ประเทศก็จะยังติดหล่มอยู่ และการที่ประเทศติดหล่ม ความคาดหวังของคนต่อรัฐบาลและ คสช.ก็จะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ และ ตัว คสช.ก็จะอยู่ได้ลำบากขึ้น
ผมมองว่าครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเก็บกวาดประเทศ เพราะถ้าเราสามารถดำเนินคดี หรือสามารถดำเนินการกับผู้นำฝ่ายการเมืองระดับสูงได้ ทุกคนก็จะเกรงกลัว แต่ถ้าหากคุณไม่กล้า เพราะกลัวว่าคนนั้นเป็นของคนนี้ คนนี้เป็นของคนโน้น ประเทศก็จะติดหล่ม ปัญหาก็จะลุกลามไปเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นก็ต้องเตือนสติคนที่รับผิดชอบว่าเข้ามาแล้ว ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ ถ้าเข้ามาแล้วไม่แก้ไขปัญหา ผมถือว่าเป็นการซ้ำเติมปัญหา เพราะฉะนั้นคงต้องไปรอดูวันที่ 23 ม.ค. นพ.วรงค์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่เสียงส่วนใหญ่ที่อยากจะให้มีการถอดถอน คือฝ่ายตรงข้ามระบอบทักษิณและพยายามเรียกร้องให้ สนช.ถอดถอน นพ.วรงค์ กล่าวว่า เราถือว่าปัญหาใหญ่ของประเทศก็คือระบอบทักษิณ ซึ่งสิ่งหนึ่งก็คือปัญหาเรื่องทุจริต คอรัปชั่น และการทุจริตโดยนำคนจนและชาวนามาอ้าง เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องของความถูกต้องทั่วๆไปที่จะต้องดำเนินการ และเป็นเรื่องของนิติรัฐ หลักของกฎหมายที่จะต้องดำเนินการ
ส่วนที่ทีมทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขู่ สนช.ว่าถ้าหากถอดถอน จะฟ้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา เนื่องจากมองว่าเป็นเกมทางการเมืองนั้น นพ.วรงค์ กล่าวว่า ตนรู้สึกงงว่าจะนำกฎหมายข้อไหนไปฟ้อง สนช. ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็นำเรื่องปรองดองมาอ้าง ภายหลังก็เห็นมีกระแสข่าวว่าจะแจ้งความดำเนินคดีต่อ สนช. ตนดูแล้วก็เห็นว่าก็ข้อกฎหมายข้อไหนที่ให้อำนาจให้ไปดำเนินการ แต่ก็พยายามสะท้อนว่าฝ่ายนั้นพยายามจะหาหลายมิติ เพื่อเอามาข่มขู่ให้ตนเองรอด เพราะการถอดถอนครั้งนี้ หมายถึงการตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ซึ่งทางพรรคพวก น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็คงกลัวเรื่องนี้มาก