"ประยุทธ์" ไม่เรียกถาม 3 รมต. ปมออกจากทหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสข่าวลือว่า 3 รัฐมนตรี ประกอบด้วย พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะ หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ในรัฐบาลชุดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะลาออกจากตำแหน่งข้าราชการประจำเพื่อไปรับผิดชอบในตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียว ทำให้กระแสสังคมเริ่มจับตามองถึงการทำงานระหว่างรัฐบาล คสช. และกองทัพ ว่ามีปัญหากันหรือไม่อย่างไร รวมถึงกระแสข่าวการปฏิวัติซ้อนที่ถูกหยิบยกขึ้นในท่ามกลางกระแสข่าวลือดังกล่าว
แหล่งข่าวจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วิเคราะห์ถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง คงเป็นแค่กระแสข่าวลือเพื่อโยนหินถามทางอะไรบางอย่างจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี กระแสข่าวที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการระหว่างรัฐบาล คสช. และ กองทัพ ซึ่งทั้ง รัฐบาล คสช. และ กองทัพ ยังคงเดินหน้าในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของประเทศตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะดำเนินการตามโรดแม็ป ซึ่งทุกฝ่ายก็มีความเห็นพ้องต้องกันไม่ได้มีปัญหาความขัดแย้งใด ๆ เกิดขึ้น ดังนั้นข่าวที่เกิดขึ้นขอให้ใช้วิจารณญาณให้ดี ไม่อยากให้ไปตกหลุมพรางของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
กระแสข่าวลือว่า 3 นายทหารระดับสูงจะลาออกเพื่อไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียว เกิดขึ้นมาพักหนึ่งแล้ว โดยมีการลือกันตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.ปีที่ผ่านมา รวมถึงมีการวิเคราะห์กันของทหารบางกลุ่ม ว่าหาก 3 นายทหารระดับสูงสุดกองทัพลาออกจากตำแหน่งข้าราชการประจำใครจะมาดำรงตำแหน่งแทน โดยเฉพาะตำแหน่งของรองผู้บัญชาการทหารบก ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะนั่งอยู่ในตำแหน่งดังกล่าว หากลุกออกจากกองทัพบกไปแล้วใครจะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนในช่วงรอยต่อที่จะมีการโยกย้ายในช่วงปลายเดือน เม.ย. และปลายเดือนก.ย.นี้ โดยแคนดิเดตที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก ต่อจาก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แหล่งข่าว คสช.ระบุ
แหล่งข่าว คสช. มองอีกว่า ขณะนี้นี้ที่เวลามีความเป็นไปได้เพียง 2 คนเท่านั้น คือ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก และพล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งเป็นน้องชายของ พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าใครขึ้นมาในตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก ก็อาจจะมีภาษีกว่าอีกคนหนึ่งได้ ทั้งนี้เมื่อมาดูภาพรวมแล้วว่า หากมีการขยับในตำแหน่งรองผู้บัญชาการทหารบก ก็จะทำให้ตำแหน่งในกองทัพภาคโดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 1อาจจะมีการขยับตัวแม่ทัพภาคที่ 1 ขึ้นมาอยู่ในไลน์ 5 เสือ ทบ.
แหล่งข่าว คสช. ยืนยันว่า ตอนนี้การทำงานของรัฐบาล คสช. และ กองทัพ ค่อนข้างมีเอกภาพ และทำงานไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะการแก้ไขปัญหาของประเทศก็ถือว่าค่อนข้างหนักอยู่ ดังนั้นทุกฝ่ายคงไม่เอาปัญหามาทับถมกันอีก ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้ตกใจ หรือ ต้องเรียกใครมาสอบถามถึงประเด็นดังกล่าว เนื่องกระแสข่าวการลาออกของ 3 นายทหารระดับสูงของกองทัพ มีการลือมาเป็นระยะ ๆ แล้ว และที่สำคัญนายทหารระดับสูงที่จะลาออกจะต้องคิดให้รอบคอบ เพราะถือว่าเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีในชีวิติรับราชการ และที่สำคัญการทำงานในตำแหน่งรัฐมนตรี และ ข้าราชการประจำของ 3 นายทหารระดับสูง ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร ยังคงสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี