สสว.คาดปี 58 "เอสเอ็มอี" ขยายตัว 5.4%

รักษาการผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. วิมลกานต์ โกสุมาศ กล่าวถึงสถานการณ์เอสเอ็มอีในปี 2557 ว่า โดยภาพรวมปรับตัวดีขึ้น สะท้อนได้จากจีดีพีเอสเอ็มอี ตั้งแต่ไตรมาส 1 ถึง 3 ที่หดตัวในอัตราที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรก จีดีพีเอสเอ็มอีมีมูลค่ารวม 3.37 ล้านล้านบาท ซึ่ง 57% มาจากการบริโภคภายในประเทศ ส่วนที่เหลือ 43% มาจากการส่งออก และคาดว่าไตรมาส 4 จะยังขยายตัว ส่งผลให้ภาพรวมจีดีพีเอสเอ็มอีปีนี้ขยายตัว 0.5%
ปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์เอสเอ็มอีปรับตัวดีขึ้น เป็นผลจากการเมืองมีเสถียรภาพและมีทิศทางชัดเจน และรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้เงินช่วยเหลือชาวนา สร้างการจ้างงานในชนบท การลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานราชการ รวมถึงมาตรการช่วยเหลือและส่งเสริมการลงทุนให้เอสเอ็มอี ซึ่งมาตรการเหล่านี้ช่วยกระตุ้นการบริโภคในประเทศ ทำให้การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 
ส่วนมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของเอสเอ็มอีปี 2557 พบว่าการส่งออกในช่วง 10 เดือนมีมูลค่า 1,607,939 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.49% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 26.3%  ของมูลค่าการส่งออกรวมทั้งประเทศ โดยตลาดหลักที่เอสเอ็มอีส่งออกสินค้ามากที่สุด คือ กลุ่มประเทศอาเซียน มูลค่า 427,651 ล้านบาท รองลงมาคือ จีน มูลค่า 191,656 ล้านบาท กลุ่มสหภาพยุโรปหรืออียู มูลค่า 167,029 ล้านบาท ญี่ปุ่น มูลค่า 158,145 ล้านบาท และสหรัฐ มูลค่า 124,064 ล้านบาท ซึ่งการส่งออกในทุกตลาดหลักขยายตัวเพิ่มขึ้น 
สำหรับสินค้าที่มีการส่งออกสูงสุด ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ รองลงมาคือ พลาสติกและของทำด้วยพลาสติก เครื่องจักร คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อุปกรณ์ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ยานยนต์และส่วนประกอบ ตามลำดับ 
ส่วนสถานการณ์เอสเอ็มอีในปี 2558 มีแนวโน้มจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 5.4%  โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวจากฐานเดิมที่ต่ำ นโยบายของรัฐที่สร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการให้ความช่วยเหลือเกษตรกร การจ้างงานและสร้างรายได้นอกภาคเกษตร การเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน การลดอัตราภาษีและการจัดตั้งกองทุนร่วมลงทุนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี นอกจากนั้น ยังมีปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เศรษฐกิจและการค้าโลกมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นส่วนช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งในด้านการลดต้นทุน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ รวมถึงการเพิ่มอำนาจซื้อให้กับผู้บริโภค ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการขยายตัวของเอสเอ็มอีในปี 2558