คมนาคม จ่อปรับค่าโดยสารทุกระบบ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งวิเคราะห์ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างราคาพลังงานที่มีผลต่อต้นทุนและค่าโดยสารของรถโดยสารสาธารณะทั้งระบบภายหลังราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงและก๊าซแอลพีจีกับก๊าซเอ็นจีวีมีการปรับสูงขึ้นเพื่อเร่งหาข้อสรุปว่าสมควรจะปรับค่าโดยสารรถโดยสารสาธารณะประเภทใดขึ้นไปอีกหรือลงก่อนเสนอให้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาในเดือนมกราคม 2558 เพื่อเสนอให้ให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางพิจารณาเห็นชอบต่อไป
นายอาคมกล่าวว่า สำหรับการวิเคราะห์จะดูภาพรวม โดยเฉพาะกลุ่มรถโดยสารขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รถร่วมบริการ ขสมก. รถตู้โดยสาร รถสองแถว รถมอเตอร์ไซค์รับจ้างว่าได้รับผลกระทบอย่างไร โดยจะมีการแยกประเภทว่ารถประเภทใดมีการใช้เชื้อเพลิงแบบไหน มีจำนวนกี่คัน ขณะเดียวกันก็จะพิจารณาสถิติการปรับค่าโดยสารย้อนหลังของประกอบด้วย เช่น หากรถประเภทใดเคยขึ้นค่าโดยสารในช่วงน้ำมันแพง เมื่อน้ำมันถูกค่าโดยสารก็ต้องลดลง แต่หากรถประเภทไหนไม่เคยขึ้นราคาในช่วงน้ำมันแพง เมื่อน้ำมันลดลงก็ต้องพิจารณาอย่างเหมาะสม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง (รถร่วม ขสมก.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือและเข้าหารือกับนายพงษ์ไชย เกษมทวีศักดิ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เพื่อเรียกร้องขอปรับขึ้นค่าโดยสารรถร่วม ขสมก. โดยรถธรรมดาขอปรับอีก 2 บาท จาก 8 บาท เป็น 10 บาท และรถปรับอากาศเพิ่มอีกระยะ 2 บาท เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและสอดคล้องกับราคาก๊าซเอ็นจีวี เนื่องจากรถร่วม ขสมก.ไม่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารมาตั้งแต่ปี 2551 ในขณะที่ราคาก๊าซเอ็นจีวีทางกระทรวงพลังงานมีนโยบายให้ปรับราคาขึ้นมา ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 11.50 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว
"รถร่วม ขสมก.ไม่ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารตั้งแต่ปี 2551 ทำให้ผู้ประกอบการรถร่วมประสบภาวะขาดทุนทุกปี เพราะต้นทุนเดินรถปัจจุบันอยู่ที่ 4,600 บาทต่อวันต่อคัน แต่มีรายได้จริงเพียง 3,600 บาทต่อวันต่อคันเท่านั้น หากกระทรวงคมนาคมไม่ยอมรับข้อเสนอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารก็ให้พิจารณาชดเชยราคาก๊าซเอ็นจีวี เพื่อลดภาระผลกระทบจากราคาเชื้อเพลิงแทน" นางภัทรวดีกล่าว
นางภัทรวดีกล่าวว่า ยังได้หารือเกี่ยวกับนโยบายการปรับเส้นทางเดินรถของ ขสมก. 30 เส้นทาง การกำหนดเส้นทางใหม่ 8 เส้นทาง และคงเส้นทางเดิม 55 เส้นทาง โดยปัจจุบันพบว่าบางเส้นทางมีปัญหารถโดยสารสี่ล้อเล็กที่วิ่งในซอย (ซูบารุ) และรถตู้โดยสารวิ่งทับเส้นทาง จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา เพราะมีผลกระทบต่อรายได้ของรถร่วม ขสมก.