นราฯน้ำป่าทะลักทำ 3 อำเภอ วิกฤติซ้ำอีกรอบ

ความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ภาพรวมท้องฟ้ายังมีเฆมครึ้มแพร่ปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกในบางพื้นที่แต่ไม่หนักมากนัก ซึ่งในช่วงคืนที่ผ่านมาถึงเช้ามืดของวันนี้พื้นที่ อ.สุคิริน มีปริมาณฝนตกหนักสุดวัดปริมาณน้ำฝนได้ 70.50 ม.ม.และอำเภอแว้ง วัดปริมาณน้ำฝนได้ 63.20 ม.ม. ส่งผลทำให้มวลน้ำป่าบนเทือกเขาสันกาลาคีรี ยังคงไหลบ่าลงมาสมทบอีกครั้งในแม่น้ำสุไหงโก-ลกที่ล้นตลิ่งอยู่แล้ว โดยผ่านพื้นที่ อ.แว้ง ซึ่งเป็นจุดรองรับน้ำจาก อ.สุคิริน ก่อนไหลเข้ามาพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งถือว่าเป็นจุดศูนย์รวมน้ำชั้นกลาง ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลปากอ่าวด้าน อ.ตากใบ ทำให้ปริมาณระดับน้ำท่วมขัง อ.สุไหงโก-ลก ยังไม่ลดระดับลง
ทั้งนี้ สภาพที่ทรงตัวด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ ทางประเทศมาเลเซียได้ระบายน้ำที่ท่วมขังย่านเศรษฐกิจการค้าปันตันตีมอและเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ลงมาสมทบกับมวลน้ำป่าจากพื้นที่ต้นน้ำ อ.สุคิริน ขยายผลทำให้พื้นที่ 5 ตำบล คือ ต.ปาเสมัสและต.มูโน๊ะ ของ อ.สุไหงโก-ลก รวมไปถึง ต.นานาค พร่อนและ ต.โฆษิต ของอำเภอตากใบ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล ก็มีปริมาณน้ำท่วมขังสูงอยู่ในสภาวะวิกฤติไปเรื่อยๆ หากฝนไม่หยุดตกลงมา
ด้านการให้ความช่วยเหลือนั้น ทางเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่อำเภอ ได้มีการนำเครื่องอุปโภคบริโภคและน้ำดื่ม ตระเวนไปแจกจ่ายให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ทหารจากกองทัพภาค 4 ก็ได้นำรถยนต์ครัวเคลื่อนที่ เดินทางตระเวนไปประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนที่ประสบอุทกภัยต่อเนื่องเช่นกัน