svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

รัฐบาลจับมือเอกชน ลดราคาสินค้า 24-30 ธ.ค.นี้

24 ธันวาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทำเนียบรัฐบาล - 24 ธ.ค.57 - รัฐบาลจับมือเอกชนมอบของขวัญปีใหม่ ลดราคาสินค้ากว่าหมื่นสาขา 24-30 ธ.ค.นี้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธานพิธีเปิดงานการลดราคาจำหน่ายสินค้าเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยรัฐบาลร่วมกับภาคเอกชนจัดงานลดราคาสินค้าครั้งใหญ่สูงสุด ถึงร้อยละ 80 ภายใต้ชื่อ "เทใจคืนสุขสู่ประชาขน" ในทุกสาขาของห้างสรรพสินค้า ทั้งค้าปลีก และค้าส่ง และร้านค้าสะดวกซื้อ รวมทั้งหมด 12,800 สาขา เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาขน ระหว่างวันที่ 24-30 ธ.ค.นี้ รวมระยะเวลา 7 วัน โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความปรองดองของประเทศ และเป็นปรากฎการณ์ครั้งแรกในประเทศไทย ที่ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค รายใหญ่ สภาหอการค้าแห่งประเทศ สมาคมค้าปลีก ค้าส่ง ถึงห้างสรรพสินค้า ร่วมมือกันสร้างบรรยากาศแห่งความสุข ในการนำสินค้ามาลดราคาให้แก่ประชาชน อาทิ กลุ่มซีพี กลุ่มไทยเบฟ กลุ่มสหพัฒน์ กลุ่มเซ็นทรัล โรบินสัน บิ๊กซี แมคโคร โลตัส เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เชื่อว่าการจัดงานลดราคาสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน จะมียอดขายสินค้า กว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะสร้างความสุขให้กับประชาชน ในช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ยังสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การคืนความสุขเราต้องเทใจให้กัน โดยใช้กลไกทำหน้าที่ช่วยกันเดินหน้าประเทศชาติ เพื่อให้มีความเข้มแข็ง และมีความเป็นธรรม วันนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างร่วมกับ 19 กระทรวงขับเคลื่อนข้าราชการ นโยบาย เพื่อผู้ที่ได้รับประโยชน์ นั่นคือประชาชน เราทำทุกอย่างให้เป็นห่วงโซ่ ซึ่งไม่ใช้ความหมายว่า พันธนาการ แต่หมายถึงการเชื่อมโยงในทุกมิติ ทั้งนี้การลดราคาสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ถือเป็นของขวัญที่ภาคเอกชนร่วมมือกับรัฐบาล และอยากเห็นการดำเนินการในลักษณะแบบนี้ เพราะเป็นประวัติศาสตร์ที่ดี และอยากให้มีบ่อย ๆ ซึ่งรัฐบาลไม่ได้ทำเพียงเท่านี้ แต่จะต้องทำทุกอย่างทั้งระยะสั้น และระยะยาว ชั่วคราว และยั่งยืน
นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรากำลังอยู่ในช่วงของรอยต่อประเทศที่จะเดินไปข้างหน้า ถอยหลัง หรือยืนอยู่ที่เดิม จากการที่เดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ ทุกประเทศได้พูดถึงเรื่องเศรษฐกิจที่ยั่นยืน เศรษฐกิจสีเขียว สีน้ำเงินและ ต้องมีการลงทุนแบบห่วงโซ่ เข้าถึงกองทุนเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง สร้างให้เป็นนวัตกรรมการพัฒนาสิ่งใหม่เพื่อการแข่งขัน
"ในอีก 5 ปี ข้างหน้าประเทศไทยจะต้องเป็นประเทศที่มั่นคง ประชาชนมั่นคั่ง และยั่งยืน ตามแนวกระแสพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฉะนั้นขอ 3 คำนี้ ให้ช่วยกันโดยภาครัฐ ประชาชน และเอกชน ต้องร่วมกัน ทำทุกอย่างให้ลดความเหลื่อมล้ำ เพื่อลดความขัดแย้ง คนจะได้ไม่ทะเลาะ กัน ตีกัน เราจะต้องเป็นประชาธิปไตยที่ต้องไม่มีความขัดแย้ง" นายกฯกล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การเดินทางไป หลายประเทศได้ชื่นชมไทยว่ามีเสถียรภาพที่ดีขึ้น วันนี้เราต้องสร้างตัวเองให้เข้มแข็ง ต้องเดินไปข้างหน้า ซึ่งต้องใช้เวลาในการแก้ไขปัญหา คนไทยมีความคิดดี ๆ มาก แต่ทำงานร่วมกันไม่ได้ เพราะไม่เอาสิ่งที่คิดดี ๆ มาทำก่อน แต่กลับเอาสิ่งที่เถียงกันมาถกเถียงกันอยู่ ฉะนั้นต้องเริ่มให้โดยการนำความคิดดีๆ มาเริ่มดำเนินการก่อน โดยให้มองว่าประชาชน และประเทศเป็นศูนย์กลาง ต้องทำให้ประเทศหลุดพ้นกับดักจากประเทศปานกลางให้ได้

logoline