โลมาสีชมพูเกยตื้นตาย ชายฝั่งขนอมแล้ว 13 ตัว

อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นายชลธิศ สุรัสวดี กล่าวว่า พื้นที่บริเวณแนวชายฝั่งทะเลนครศรีธรรมราช เป็นแหล่งอาศัยของโลมาสีชมพู ซึ่งมีเส้นทางหากินตั้งแต่ อ.ขนอม , อ.สิชล, อ.ท่าศาลา , อ.ปากพนัง ไปจนถึง อ.หัวไทร ซึ่งสามารถพบโลมาสีชมพูว่ายน้ำให้ได้เห็นเกือบทุกวัน ทำให้ อ.ขนอม กลายเป็นแหล่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่อย่างมาก
จากการสำรวจประชากรโลมาสีชมพูบริเวณอ่าวขนอมพบว่า มีฝูงโลมาสีชมพูอาศัยอยู่ราว 30-50 ตัว และตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมามีรายงานโลมาสีชมพูเกยตื้นตายที่ชายฝั่งทะเลขนอมแล้ว 13 ตัว นับเฉพาะในปี 2557 พบโลมาตายเกยตื้นแล้ว 6 ตัว ซึ่งการเกยตื้นตายของโลมานั้นมาจากหลายสาเหตุ เช่น การที่โลมาติดเข้าไปในเครื่องมือประมงโดยบังเอิญจนได้รับบาดเจ็บหรือตาย
รวมทั้งการถูกรบกวนจากการท่องเที่ยวชมโลมาอย่างไม่ถูกวิธี หรือการกินขยะทะเลเข้าไป ทำให้ติดเชื้อและเจ็บป่วยทำให้ร่างกายอ่อนแอ ส่วนใหญ่เป็นโรคติดเชื้อทางปอด
โลมาสีชมพูจัดเป็นสัตว์ทะเลหายากในประเทศไทยที่มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ จึงจัดชุดปฏิบัติงานเรือตรวจการทรัพยากรทางทะเลได้เฝ้าระวังและคุ้มครองในพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการตายของโลมาสีชมพูทั้งในแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่ อ.ขนอม อ.สิชล อ.ท่าศาลา และพื้นที่อื่นๆทั้งในฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน
นอกจากนี้ ยังประชาสัมพันธ์แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวชมโลมาให้มีความรู้ถึงหลักปฏิบัติชมโลมา ไม่ควรเข้าใกล้ฝูงโลมาน้อยกว่า 50 เมตร ไม่ขับเรือตัดหน้า รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับชาวประมง และตั้งกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งขึ้น เพื่อแจ้งข่าวกรณีพบเห็นภัยคุกคามต่อโลมา ซึ่งกรมมีทีมกู้ชีพฉุกเฉินเคลื่อนที่เร็วเข้าไปให้การช่วยเหลือในพื้นที่อย่างรวดเร็ว