จับพระอ้าง ฝังเข็มฉีดยา รักษาโรคได้

พ.ต.ท.นพดล กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปลงบันทึกประจำวัน โดยนำเลขธนบัตรจำนวน 1,000 บาท ที่จะใช้เข้าล่อซื้อไปบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปลอมตัวเข้าไปทำการรักษา จากนั้นได้มีแม่ชีเข้ามาสอบถามอาการก่อนฉีดยาชาให้ และมีพระมาตรวจโรคและบอกว่าชุดสืบสวนเป็นโรคหัวใจจึงได้ทำการรักษา เมื่อพบว่ามีการกระทำผิดจริง จึงแสดงตัวและเข้าจับกุม ก่อนนำตัวพระสงฆ์ไปลาสิกขาที่เจ้าคณะอำเภอ และส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้านนายแพทย์ธเรศ กล่าวว่าหลังจากได้รับการร้องเรียนว่ามีพระภิกษุได้ทำการรักษาคนไข้ โดยแอบอ้างใช้วิธีการนำเข็มมาสะกิดเพื่อรักษาโรค ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้ร่วมกับกรมส่งเสริมบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ได้ขออนุมัติหมายศาลเข้าตรวจค้นที่สำนักสงฆ์ในอ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้ส่งตำรวจชุดสืบสวนเข้าล่อซื้อ ได้ผู้ต้องหาซึ่งเป็นพระ โดยพระมีพฤติกรรม ร่วมกับแม่ชี ทำการให้บริการรักษาพยาบาลโดยฉีดยาชา และใช้เข็มสะกิดให้เลือดออก ซึ่งตรงกับข้อมูลที่มีผู้ร้องเรียนมา
เมื่อมีการดำเนินการอย่างนี้ก็มีความผิด 5 ข้อหา ในความผิดไม่ควบคุมและดูแลให้แพทย์ประกอบวิชาชีพเวชกรรมในสถานพยาบาลปฏิบัติหน้าที่ ตามกฎหมายว่าด้วยวิชาเวชกรรม หากพบว่าไม่ได้รับอนุญาตจะมีความผิด ตามมาตรา 34(2) ซึ่งมีอัตราโทษตามมาตรา 65 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 20,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ในความผิดการเปิดสถานพยาบาลเถื่อน(ไม่ได้รับอนุญาต)
มีความผิดตามาตรา 16 และมาตรา 24 แห่ง พรบ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541เป็นการประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดในข้อหาผู้ที่กระทำการประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่นให้การรักษาโดยผู้ที่มิใช่แพทย์ ถือเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 26 แห่ง พรบ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มีโทษจำคุกไม่เกิน3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้านเภสัชชำนาญการ กล่าวว่า สำหรับทางด้านสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาจากการตรวจสอบยาที่พบ พบว่ามีความผิดในเรื่องของการขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะยาที่พบส่วนใหญ่จะมีเลขทะเบียนตำรับยา ซึ่งจะต้องได้รับการอนุญาตจากทางอย. แต่ว่าผู้ที่ใช้ผู้ที่ขายไม่มีใบอนุญาตจำเป็นต้องมีใบอนุญาตจากทางอย.ซึ่งเขาไม่มี และพบยาตัวหนึ่งเป็นยาสมุนไพรใส่แคปซูล ซึ่งยาตัวนี้ไม่มีทะเบียน จึงไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นยาไม่มีทะเบียนตำรับยา ซึ่งเข้าข่ายขายยาที่ไม่มีทะเบียนตำรับยา
ทั้งนี้ รองอธิบดีกรมส่งเสริมบริการสุขภาพได้ฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังเพราะหากรักษากับผู้ที่ไม่มีความรู้จะทำให้โอกาสในการรักษาพยาบาลเสียโอกาสไป อาจติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นหรือได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ซึ่งจากการตรวจสอบทราบว่ายังมีเครือข่ายที่ประกอบการรักษาพยาบาลรักษาพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไป