ซิโก้ลั่นนัดหน้ามีเฮอีก บุกคว้าแชมป์ถึงถ้ำเสือเหลือง

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน หรือ เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2014 รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา นักเตะ ช้างศึก ไทย เปิดราชมังคลากีฬาสถาน ต้อนรับการมาเยือนของคู่ปรับตลอดกาล เสือเหลือง มาเลเซีย ที่ทีมชาติไทยเคยเอาชนะมาแล้วในการเจอกันรอบแรก 3-2
บรรยากาศหน้าสนามคึกคักตั้งแต่ช่วงสายเมื่อแฟนบอลที่ไม่มีบัตรเข้าชมมาต่อแถวลุ้นซื้อบัตรที่หน้าสนาม แต่ฝ่ายจัดการแข่งขันยืนยันว่าไม่มีการจำหน่ายบัตรเพิ่มเติม ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ที่นำบัตรมาขายเกินราคาจำนวนหนึ่ง โดยราคาบัตรพุ่งจากหลักร้อยขึ้นไปถึงพันกว่าบาทในทุกราคา
ส่วนบรรยากาศในสนามมีแฟนบอลมาเข้าแถวรอเข้าไปภายในสนามตั้งแต่เวลา 15.00 น. ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเปิดให้เริ่มเข้าสู่สนามตั้งแต่เวลา 16.00 น. โดยแฟนบอลเข้าเต็มความจุของสนามกว่า 5 หมื่นคนสร้างบรรยากาศอย่างคึกคัก รวมถึงแฟนบอล เสือเหลือง ราว 2,000 คนที่เข้ามาเชียร์ในเกมนี้ด้วย
นัดนี้ทีมไทยส่งผู้เล่น 11 คนแรกลงสนามประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ คู่เซ็นเตอร์แบ็ก สุทธินันท์ พุกหอม กับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แบ็กขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม แบ็กซ้าย พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา กองกลาง สารัช อยู่เย็น ชาริล ชัปปุยส์ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กองหน้า เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ มงคล ทศไกร และ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่พ้นโทษแบนกลับมายืนกองหน้าตัวเป้า
เริ่มเกมมาทั้งสองทีมเดินเกมรุกใส่กันทันที นาทีที่ 2 เสือเหลือง ได้ทักทายก่อน โมฮัมหมัด ซูคอร์ บิน อาดัม ได้โหม่งเหน่งๆ แต่ไปตรงตัว กวินทร์ รับเข้าซอง นาทีถัดมาไทยได้ลุ้นบ้าง มงคล ได้ยิงในเขตโทษแต่ซัดข้ามคานออกไปไกลแบบน่าผิดหวัง นาทีที่ 6 ไทยไทยหวิดเสียประตู นอร์ชาห์รูล อิดลาน บิน ตาลาฮา หลุดเดี่ยวไปซัดเต็มๆ แต่ กวินทร์ ยังทุบป้องกันเอาไว้ได้
เกมยังเปิดแลกกันสนุกนาทีที่ 7 เกริกฤทธิ์ ได้ซัดในเขตโทษบอลถากเสานิดเดียว หลังจากนั้นเกมสู้แบบผลัดกันรุกและรับแต่ไม่ค่อยมีจังหวะยิงประตูเหน่งๆ นาที 42 ทีมไทยเกือบได้ประตูออกนำเมื่อแผงหลังทีมเยือนโหม่งบอลพลาด อดิศักดิ์ ฉกบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงแต่มัวชักช้าเลยยิงไปโดนนักเตะ เสือเหลือง ที่ตามมาสกัดออกหลังไป ก่อนจบ 45 นาทีแรกสกอร์ยัง 0-0
แก้เกมลงมาใหม่ครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น นาที 51 โมฮัมเหม็ด อัมรี บิน ยาห์ยาห์ โดนใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมหลังไปอัด นฤบดินทร์ จนคว่ำ นาที 54 ทีมไทยได้ลุ้นอีกครั้ง นฤบดินทร์ เปิดไปให้ มงคล วอลเลย์ในเขตแต่กดไม่ลงบอลเหินข้ามคาน อีก 2 นาทีต่อมา อดิศักดิ์ กลับตัวยิงเต็มข้อ บอลพุ่งเฉียดคาดนิดเดียว
เกมของไทยบุกต่อเนื่อง นาที 67 อดิศักดิ์ ได้ซัดในเขตโทษแต่ไปตรงตัวนายประตู เสือเหลือง นาทีต่อมาทีมไทยแก้เกมเปลี่ยนตัวคนแรกส่ง ประกิต ดีพร้อม ลงแทน มงคล นาที 71 กองเชียร์ไทยเฮกันลั่น อดิศักดิ์ ถูกแผงหลังมาเลเซียเตะล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชาวอุซเบกิสถานเป่าให้ทีมไทยได้ลูกโทษที่จุดโทษ ก่อนที่ ชาริล จะรับหน้าที่เพชฌฆาตซัดเสียบมุมประตูให้ไทยนำ 1-0 แบบเสียงเฮสนามแทบแตก
หลังเสียประตูมาเลเซียต้องแก้เกมเปลี่ยนผู้เล่น 2 คนรวดเอา บาดด์โรล บิน บาห์ติอาร์ กับ โมฮัมหมัด ซาฟี บิน ซาลี ลงไปแทน โมฮัมหมัด ซูคอร์ บิน อาดัม กับ อินดรา ปุตรา ท้ายเกมนาที 85 ชนาธิป กระชากบอลหลุดขึ้นไปทางฝั่งซ้ายแล้วหักมาให้ เกริกฤทธิ์ แปตูมเดียวไม่เหลือซาก บอลพุ่งตุงตาข่ายบวกสกอร์ให้ไทยนำห่าง 2-0 ท่ามกลางเสียงเฮดังสนั่น
เอาบอลมาเขี่ยเล่นใหม่ ช่วงทดเวลาทีมไทยส่ง อดุล หละโสะ ลงไปแทน สารัช แต่เวลาที่เหลือก็ไม่มีสกอร์เพิ่มจบเกมทีมชาติไทยย้ำแค้นเอาชนะ 2-0 โดยทั้งสองทีมต้องไปเตะนัดที่ 2 ที่สนามกีฬาแห่งชาติบูกิต จาลิล ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ เวลา 19.00 น.ตามเวลาประเทศไทย สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด
หลังจบเกมในห้องแถลงข่าว ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมไทย กล่าวว่า วันนี้มาเลเซียไม่ได้มาเล่นรับ แต่มารุกใส่ไทยด้วย ช่วงแรกเราจึงเน้นรับเหมือนกัน เพราะไม่อยากพลาด ต้องบอกว่าพอใจกับ 3 แต้ม แต่การเดินทางของเรายังไม่จบ เป้าหมายต่อไปคือเกมที่มาเลเซีย ทีมต้องพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อเอาแชมป์กลับมาฝากคนไทย
"เกมต่อไปกับมาเลเซียคงต้องมาวางแทคติคกันต่อไป แน่นอนว่าเราต้องเล่นแบบรัดกุมและต้องเอาชัยชนะกลับมาให้ได้ สำหรับบรรยากาศที่บูกิต จาลิล แน่นอนว่าคนดูต้องเยอะเหมือนกับวันนี้ แต่หากเราอยากเป็นแชมป์ก็ต้องดูว่าเด็กจะผ่านความกดดันตรงนี้ได้หรือไม่" ซิโก้ กล่าว
ด้านดอลลาห์ ซาเลห์ โค้ชมาเลเซีย เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าวันนี้ ทีมเล่นกันไม่ดีเหมือนเกมที่ชนะเวียดนาม ช่วงแรกๆยังดีอยู่ แต่ครึ่งหลังกองหลังเริ่มมีปัญหา ยอมรับว่าทีมชาติไทยเล่นดีกว่า แต่เกมยังเหลืออีก 90 นาทีที่จะกลับไปเล่นที่บ้าน แม้สกอร์ 0-2 จะยาก แต่ฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทีมต้องทำงานเต็มที่ในเกมที่บูกิต จาลิล