สบส.จับ 4 คลินิก"เฟรชเซลล์"

น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า จากการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ว่า คลินิกรับฉีดเฟรชเซลล์ ที่เป็นสเต็มเซลล์รูปแบบหนึ่งเพื่อรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ เสียค่ารักษาไป 2 ล้านเศษ ซึ่งมีการตรวจสอบคลินิกต่างๆไปแล้วในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา โดยพบว่าการให้บริการสเต็มเซลล์เพื่อรักษาโรค แพทยสภามีประกาศหลักเกณฑ์การรักษาโรคด้วยสเต็มเซลล์แค่โรคเกี่ยวกับโลหิตเท่านั้น การโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคอื่นๆได้ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานการรักษา โดยในช่วงที่ผ่านมา สบส. ได้เข้าตรวจสอบสถานพยาบาลที่โฆษณาว่ารักษาโรคอื่น และช่วย?คืนความหนุ่มสาว ทั้งหมด 4 แห่ง โดยพบกระบวนการคล้ายกัน คือ มีสถานที่ให้คำปรึกษาและมีแพทย์ ประจำคลินิกเพื่อตรวจร่างกาย เจาะเลือด ซักประวัติ และส่งไปฉีดที่ประเทศเยอรมัน โดยคิดค่าบริการหลักล้านบาท
นพ.บุญเรือง กล่าวอีกว่า ??เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบทั้งสิ้น 4 แห่ง โดยแห่งแรกคือที่ที่มีการร้องเรียนในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิล์ด พบความผิดฐานโฆษณา ตามมาตรา 38 พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และมีการใช้ชื่อคลินิกไม่ตรงกับชื่อที่ได้รับอนุญาต ผิดมาตรา 24 โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท ?2.บางกอกเมดิคอล ย่านเอกมัย พบว่าไม่มีผู้ดำเนินการสถานประกอบการตามใบอนุญาต แต่มีแพทย์คนอื่นทำงานอยู่ และผิดเรื่องการโฆษณาเช่นเดียวกัน
3.คลินิกย่านทองหล่อ 55 ซึ่งมีนางแอน มิตซูโอะ เป็นผู้ดำเนินการ พบว่ามีความผิดฐานแพทย์ผู้ขออนุญาตไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ โฆษณาโอ้อวด ไม่มีป้ายชื่อตามที่ขออนุญาต และตรวจพบว่ามีการใช้ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในสถานประกอบการโดยได้ดำเนินการตามกฎหมายไปแล้ว ส่วนกรณีใช้ยาไม่ขึ้นทะเบียนได้ส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)ตรวจสอบต่อไป และ 4.สถานประกอบการในอาคารเพลินจิต พบว่าเป็นแหล่งใหญ่ มี 5 สาขา โดยมีแพทย์ชาวเยอรมันมาทำการตรวจร่างกาย ซักประวัติ เข้าข่ายหมอเถื่อนตามมาตรา 26 พรบ.วิชาชีเพเวชกรรม พ.ศ.2525 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรอปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท ทั้งนี้ คลินิกทั้ง 4 แห่งมีความผิดตามมาตรา 34(2) พรบ.สถานพยาบาล ฐานไม่ควบคุม ดูแลและบังคับให้เป็นตามมาตรฐานวิชาชีพ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 2 หมื่น
นพ.บุญเรือง กล่าวด้วยว่า สบส.ได้ดำเนินการตามกฎหมายในสถานพยาบาลทั้ง 4 แห่ง และขณะนี้อยู่ระหว่างการขอคำวินิจฉัยจากแพทยสภา เพื่อให้แพทยสภาตีความในประเด็นที่สถานพยาบาลที่เป็นผู้เริ่มต้นกระบวนการให้การรักษาด้วยการวินิจฉัย เจาะเลือด ตรวจร่างกาย เพื่อให้บริการสเต็มเซลล์รักษาโรคโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ แม้ว่าจะส่งต่อไปยังต่างประเทศ จะเข้ามาตรา 49 พ.ร.บ.สถานพยาบาลหรือไม่ หากเข้าจะทำให้มีสิทธิสั่งระงับการให้บริการได้ ทั้งนี้ กำลังมีการร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองประชาชนจากการรับบริการ สเต็มเซลล์ เพื่อกำหนดรายละเอียดการให้บริการอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งเน้นในการคุ้มครองประชาชน