svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

เอ็นไวโรเซล เผย 8 ค่านิยมผู้บริโภคปี 58

16 ธันวาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เอ็นไวโรเซล โชว์ 8 ข้อมูลเทรนด์ค่านิยมผู้บริโภคปี58 พบว่าความนิยมเปลี่ยนแปลงไปมากขึ้น อาทิ อยากรวยลัด สวยภายนอก ไม่ชอบผูกมัด แนะนักการตลาดเข้าใจผู้บริโภคและปรับใช้เป็นโอกาสธุรกิจ

นางสาวสรินพร จิวานันต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นไวโรเซล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง 8 แนวโน้มค่านิยมของกลุ่มผู้บริโภคในปี 2558 โดยอาศัยข้อมูลจากการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ และงานวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมหรือค่านิยมของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา พบว่า ผู้บริโภคมีค่านิยมที่เริ่มมีแนวโน้มเปลี่ยนไปอย่างมาก โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของเทคโนโลยี และพฤติกรรมต่างๆ ทั้งนี้ ข้อมูลค่านิยมดังกล่าวจะมีส่วนในการกำหนดทิศทางของการทำตลาดในปีหน้า โดยแบรนด์สินค้าต่างๆ หรือนักการตลาดสามารถปรับใช้ประโยชน์จากข้อมูลแต่ละค่านิยมดังกล่าว กับการทำแคมเปญ หรือกิจกรรมการตลาดต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มค่านิยมของผู้บริโภค และประสบความสำเร็จ
สำหรับแนวโน้มค่านิยมของผู้บริโภคประการแรก คือ รวยลัด เนื่องจากผู้บริโภครุ่นใหม่ส่วนใหญ่ไม่ยอมอดทนกับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และเน้นเส้นทางลัด โดยยังมีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่จะมุ่งเน้นแสวงหาความร่ำรวย ซึ่งเห็นได้จากหมวดหนังสือขายดีตามร้านหนังสือต่างๆ ที่อยู่ในกลุ่มการลงทุน และหนทางสู่ความสำเร็จในชีวิต ทั้งนี้ นักการตลาดก็จะต้องนำเสนอแคมเปญที่ใช้ระยะเวลากระชับ ไม่ทำให้คนเบื่อหน่าย
ขณะเดียวกัน คนรุ่นใหม่ยังมีค่านิยมที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความงามภายนอก โดยหลายคนเชื่อว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จมีปัจจัยจากภาพลักษณ์ดูดี ความสวย-หล่อต่างๆ จะทำให้ได้รับความนิยม โดยเห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจเสริมความงาม และความนิยมกับการใช้แอพพลิเคชั่นแต่งรูปภาพเพื่อให้ดูดีขึ้น แต่ในกรณีนี้แนะนำว่า แบรนด์อาจสร้างความแตกต่างผ่านการสนับสนุนให้ผู้หญิงตระหนักเรื่องความสวยจากภายในได้  
นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มพึ่งพาตัวเองมากขึ้น และไม่พึ่งพาคนอื่น โดยเป็นผลมาจากการอยู่กับสังคมออนไลน์ เช่น การหาข้อมูลในสื่ออนไลน์ตามเว็บไซต์ต่างๆ การเส้นทางท่องเที่ยวเอง การใช้โมโนพอด หรือไม้เซลฟี่ ถ่ายรูปเองโดยที่ไม่ต้องให้คนอื่นช่วยถ่ายรูปให้ ซึ่งจากแนวโน้มดังกล่าวจะทำให้เห็นการประท้วง หรือการแสดงความคิดเห็นเพิ่มมากขึ้น
ขณะเดียวกัน กลุ่มผู้บริโภคจะมีค่านิยมที่ไม่ชอบการผูกมัด โดยเห็นได้จากการมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารในที่สาธารณะมากขึ้น และเลือกที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมลดลง แต่กลับหันไปสร้างสังคมออนไลน์มากกว่า เช่น การมีเพื่อนในเฟซบุ๊คเป้นจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งแตกต่างจากชีวิตในปัจจุบันที่มีจำนวนเพื่อนน้อยราย รวมถึงข้อมูลอัตราการแต่งงานที่ดลง และการหย่าร้างในปัจจุบันที่สูงขึ้นกว่าในอดีต  โดยนักการตลาด หรือแบรนด์สินค้า สามารถนำค่านิยมนี้ไปปรับใช้กับการทำแคมเปญสินค้า เช่น การนำเสนอแพคเกจการให้บริการในระยะเวลาที่ไม่นานนัก หรือถ้านำเสนอแพคเกจระยะเวลานาน ก็จะต้องให้ส่วนลดที่ดึงดูดลูกค้ามากขึ้น
ขณะที่ คนก็มีแนวโน้ม เปิดเผย ชัดเจน และไม่ชอบการปิดบัง มากขึ้น โดยแบรนด์ และนักการตลาดจะต้องเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวแบรนด์หรือตัวสินค้าที่เป็นความจริง ไม่บิดเบือนหรือโกหกลูกค้า และสินค้านั้นจะต้องดีจริงและสามารถพิสูจน์ได้ เพราะในปัจจุบันคนสามารถเข้าถึงข้อมูล หรือหารายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลที่ต้องการทราบได้ ทั้งจากเว็บไซต์ และรีวิวตามบลอกเกอร์ต่างๆ
จากการที่โลกเริ่มไร้พรมแดนมากขึ้น ส่งผลให้วัฒนธรรมแต่ละมุมโลกถูกเปิดกว้าง แพร่หลายและเป็นที่ยอมรับ รวมถึงคนก็พยามยามเปิดใจและเข้าใจกับวัฒนธรรมเดียวกันมากขึ้น เช่น การทำแคมเปญของน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง ที่สื่อสารด้วยรูปแบบแคมเปญเดียวกันและแพร่หลายไป 70 ประเทศทั่วโลก และได้รับการตอบรับที่ดี และส่งผลให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น หรือตัวอย่างจากแคมเปญไอซ์บักเก็ต  ที่แพร่หลายอย่างรวดเร็วทั่วโลก
ทั้งนี้ ผู้บริโภครุ่นใหม่ยังมีค่านิยมเรื่องมาตรฐานสูงขึ้น มีความคาดหวังที่จะต้องได้รับการบริการที่ดี เพราะถ้าลูกค้าได้รับบริการไม่ดี ก็จะทำให้เกิดการนำประสบการณ์ที่แย่ไปเผยแพร่ในสื่อโซเชียลได้ ดังนั้น แบรนด์จะต้องวางแผนและให้ความสำคัญกับด้านการบริการแก่ลูกค้า เพื่อให้เกิดกระแสการตอบรับที่ดี
นอกจากนี้ คนยังนิยมเรื่อง ซื้อน้อยแต่ได้เยอะ โดยผู้คนเริ่มหันมาเลือกพกพาสินค้าชิ้นเดียว ที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น การคิดค้นนวัตกรรมรองเท้าติดจีพีเอส ที่ทำหน้าที่ได้เหนือกว่ารองเท้าทั่วไป ดังนั้นผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงต้องมุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมให้สินค้ามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค

logoline