สุราษฎร์ธานี - พบโบราณวัตถุในถ้ำ กรมศิลฯสำรวจคาดอายุกว่า 5 พันปี
สุราษฎร์ธานี - ชาวบ้านในพื้นที่คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี พบวัตถุโบราณภายในถ้ำเขาราหูถ้ำเขาพระจำนวนมาก เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรลงสำรวจ ประเมินอายุ 5,000 - 12,000 ปี
นายทศนาท สุขสวัสดิ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ที่ 5 ถนนบางพระ -ถ้ำสิงขร ต.ย่านยาว อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ครูประจำโรงเรียนบ้านท่าไคล อ.คีรีรัฐนิคม พร้อมชาวบ้านในพื้นที่จำนวนหนึ่ง ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูวัตถุโบราณจำนวนมากที่พบภายใน ถ้ำบางพระ ถ้ำศรีชุม ถ้ำแสงมรกต เขาราหู หมู่ที่ 7 ต.ย่านยาว
โดยพบว่าสภาพภายในถ้ำเป็นลักษณะเป็นห้องโถงกว้างขวาง แต่มืด สิ่งของที่พบภายในถ้ำส่วนใหญ่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้และอาวุธยุคโบราณที่เป็นหิน รูปสลักหินที่เป็นศีรษะมนุษย์และยังพบฟอสซิล กระดูกสัตว์จำนวนมาก และเศษชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผาลวดลายต่างๆ
นายทศนาท กล่าวว่า ตนได้ครอบครองพื้นที่ดังกล่าว โดยอยู่ในละแวกเขาราหูและเขาพระ ต่อมามีชาวบ้านขึ้นไปเก็บขี้ค้างคาวพบกับความอาถรรพ์แปลกๆจนไม่สามารถขึ้นไปเก็บขี้ค้างคาวได้ จึงมาบอกกับตน เมื่อตนขึ้นไปสำรวจจึงพบกับสิ่งของโบราณเหล่านี้
นอกจากนั้นยังพบฟันมนุษย์โบราณ จำนวน 2 ซี่ และยังประสบกับความอาถรรพ์ลี้ลับหลายอย่าง จนทำให้ตนไม่สบายใจ จึงได้จุดธูปบอกกล่าวกับเจ้าของฟันว่าจะนำสิ่งที่พบเห็นไปเปิดเผยสู่สาธารณะและให้เป็นที่ศึกษาเรียนรู้แก่เยาวชนของชาติต่อไป ความอาถรรพ์ต่างๆจึงได้หายไป ต่อมาจึงแจ้งไปยังสำนักศิลปากรที่ 14 จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้มาตรวจสอบ ทางสำนักฯได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบจำนวน 5 คน
หลังตรวจสอบแล้วเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลว่า เครื่องมือเครื่องใช้ที่พบเป็น เครื่องมือหินลักษณะเป็นเครื่องกะเทาะ พบมากในพื้นที่ภาคใต้ และมีอายุมากกว่า 9,000 ปี ถึง 12,000 ปี
สำหรับชิ้นส่วนเครื่องปั้นดินเผาลายเชือกทาบเผาด้วยอุณภูมิต่ำ มีอายุระหว่าง 4,000 ถึง 5,000 ปี จึงน่าเชื่อว่าบริเวณที่พบเป็นแหล่งต้นกำเนิดและเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคโบราณติดต่อกันมานับหมื่นปี ซึ่งประกอบกับก่อนหน้านี้มีการขุดพบวัตถุโบราณในพื้นที่อ.คีรีรัฐนิคมและพื้นที่อำเภอใกล้เคียงเป็นจำนวนมากเช่ากัน
โดยทางเจ้าหน้าที่ ได้อธิบายอีกว่าหากขุดลงไปในชั้นใต้ดินภายในถ้ำทั้ง 3 แห่ง ลึก 1 เมตร 50 เซนติเมตร เชื่อว่าอาจพบวัตถุโบราณอีกจำนวนมากที่ดินได้ทับถมอยู่ แต่อย่างไรแล้วต้องรอเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เป็นผู้ดำเนินการเองเนื่องจากเป็นสมบัติของชาติ ส่วนตนเองเตรียมรวบรวมวัตถุโบราณเหล่านี้ที่สามารถเก็บรักษาไว้ได้ เพื่อเตรียมจัดตั้งเป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้และศึกษาของเยาวชนต่อไป
