ฆ่าโหดหั่นศพสาวเล็บแดง ทิ้งป่าหญ้าแยกหัวทิ้งเจ้าพระยา

ที่เกิดเหตุเป็นที่รกร้างเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่มีหญ้าขึ้นปกคลุม ภายในป่าหญ้าได้พบชิ้นส่วนมนุษย์ เป็นแขนท่อนล้างทั้งแขนซ้ายและแขนขวา ชายโครงด้านขวา ชิ้นส่วนขาท่อนบนเหนือหัวเข่าและขาท่อนล่าง และชิ้นเนื้อหัวไหล่ด้านหลัง ชิ้นส่วนหน้าอีก 1 ชิ้น รวม เป็น 7 ชิ้น ถูกทิ้งกระจัดกระจายอยู่ในป่าหญ้า จึงได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำชิ้นส่วนทั้งหมดออกมาตรวจสอบ ได้พบว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบน่าจะเป็นชิ้นส่วนของผู้หญิงเนื่องจากสภาพนิ้วที่เรียวเล็กและทาเล็บสีแดง ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกนำมาทิ้งเอาไว้ประมาณ 2-3 วัน
ก่อนหน้านี้ห่างกันประมาณ 1 ชั่วโมงได้มีผู้พบศพของหญิงสาวถูกตัดเหลือเพียงส่วนศีรษะลอยอยู่ในน้ำภายในคลองมหาวงษ์ บริเวณท่าทรายเทพมงคลนิมิต หมู่ 5 ซอยวัดมหาวงษ์ ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ จากการตรวจสอบศีรษะดังกล่าวพบว่าถูกโกนเส้นผมออกจนศีรษะโล้นที่บริเวณหน้าผากข้างขวามีบาดแผลคล้ายถูกตีด้วยของแข็งและมีการสักคิ้วถาวรทั้งสองข้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกทิ้งมาแล้วประมาณ 2-3 วัน และน่าจะเป็นชิ้นส่วนเดียวกับที่พบว่าถูกทิ้งในป่าหญ้าในพื้นที่เขตสำโรงเหนือ จึงนำชิ้นส่วนทั้งหมดส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช
จากการสอบถามนายพิทักษ์ เผื่อแผ่ อายุประมาณ 27 ปี คนขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างวินแยกบางนาเบอร์ 54 ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุหลังจากที่ตนเข้ามาส่งผู้โดยสารที่ย่านสำโรงเหนือ และกำลังขับรถกลับวิน จึงได้จอดกินข้าว ที่ร้านลาบริมถนนซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าที่ดินดังกล่าวเห็นป่ากระถิน จึงได้เดินเข้าไปเก็บยอดกระถิ่นในป่าหญ้าดังกล่าว จึงได้พบท่อนแขนของมนุษย์ถูกทิ้งอยู่ในป่าหญ้าดังกล่าวจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ
ขณะเดียวกันมีนายประเสริฐ ทีดี อายุ 43 ปี เดินทางมาระบุสงสัยว่าผู้ตายจะเป็นเพื่อนหญิงของตนที่ชื่อนางสมยศ สนัสการ อายุ 42 ปี ซึ่งทำงานเป็นกุ๊กอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งในย่านนวมินทร์ กทม.ที่ได้ออกจากห้องพักมาตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 7 ธันวาคม ที่ผ่าน โดยได้บอกกับตนว่าจะมาหาแฟนเก่า ซึ่งพักอาศัยอยู่ในซอยแบริ่ง เขตติดต่อสำโรงเหนือ สมุทรปราการ
หลังจากนั้นได้หายตัวไป ตนจึงเดินทางมาตามที่บ้านของแฟนเก่าของเพื่อนแต่ไม่พบ จึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา โดยเพื่อสาวของตนไปสักคิ้วถาวร ซึ่งตรงกับชิ้นส่วนศีรษะท่อนหัวที่พบในพื้นที่สำโรงใต้ แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันว่าชิ้นส่วนมนุษย์ที่พบเป็นชิ้นส่วนของนางสมยศ ที่หายไปหรือไม่ จึงได้มอบชิ้นส่วนมนุษย์ทั้งหมดให้มูลนิลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช