ปิดล้อมจับแก๊งมอดไม้ ลอบตัดไม้พะยูงส่งขายชายแดนไทย-ลาว

เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 11 ธันวาคม นายสมศักดิ์ โค่นถอน หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าบุณฑริก -ยอดมนอ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี สนธิกำลังกับทหารกองกำลังสุรนารี กองร้อยทหารพรานที่ 2601  กรมทหารพรานที่ 26 กอง และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ อบ.19  ร่วมกันตรวจยึดจับกุมนายทองพูน ปัดถา อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่  200 ม.8  ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี พร้อมของกลาง ไม้พะยูง 19 ท่อนพร้อมรถจักรยานยนต์ 2 คัน  ที่บริเวณป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้บ้านบก ต.ห้วยข่า อ.บุณฑริก จ.อุบลฯ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน  ห่างจากแนวชายแดนไทย -ลาว ประมาณ 3 กม.
ภายหลังสืบทราบมีการลักลอบตัดไม้พะยูง และไม้หวงห้ามใช้รถจักรยานยนต์ขนไม้ ลำเลียงส่งขายให้กับนายทุนชาวจีนที่มารอรับซื้อไม้พะยูงบริเวณภูผางชายแดนไทย -ลาว จึงได้ระดมกำลังเข้าตรวจสอบปิดล้อมจับกุม จากการสอบสวนผู้ต้องหาเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าร่วมกับพวกที่หลบหนี ได้เข้าไปลักลอบตัดไม้พะยูงโดยนำมากองรวมกันไว้ จากนั้นก็จะนำไม้พะยูงทยอยใส่ท้ายรถจักรยานยนต์นำไปขายให้กับพ่อค้าชาวจีน และได้เสพยาบ้าด้วย เจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยข่า อ.บุณฑริก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 
นายสมศักดิ์ โค่นถอน หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าบุณฑริก -ยอดมน กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เพิ่มมาตรการปราบปรามสกัดกั้นจับกุม แต่ทางขบวนการมอดไม้ยังมีความพยายามเข้าไปลักลอบตัดไม้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบุณฑริก-ยอดมน นอกจากเป็นแหล่งไม้พะยูงขนาดใหญ่ ยังมีไม้ชิงชันและไม้ประดู่ ซึ่งเป็นไม้ที่ตลาดต้องการสูง และมีราคาแพงมาก  กลุ่มตัดไม้ในเขต อ.บุณฑริก จะนำไม้พะยูงและไม้ชิงชัน ไปส่งที่เขตแดนไทย- ลาว ขายให้นายทุนชาวจีนหากถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ขณะอยู่ในพื้นที่ป่า ถ้าไม่มีของกลาง ก็จะได้รับโทษแค่ปรับ พรบ.ป่าไม้ คนละประมาณ 500 - 1,000บาท จึงทำให้เกิดกลุ่มตัดไม้ใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง