เมืองน่านวุ่น หลัง อพท.น่านทาสีถนนเมืองเก่า

ผู้สื่อข่าวรายงาน ภายหลังจากที่ องค์การบริหารการจัดการพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท.น่าน ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการปรับปรุงถนนสุริยะพงษ์ ถนนเจ้าฟ้า และถนนผากอง อ.เมืองน่าน โดยการทาสีให้เป็นสีน้ำตาลแดง เพื่อใช้เป็นจุดนำสายตาและเป็นสัญลักษณ์แสดงขอบเขตบริเวณเมืองเก่าน่าน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเมืองน่านถึงความไม่เหมาะสมจนทาง อพท.น่านรวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงในเรื่องดังกล่าวเมื่อวาน (8 ธ.ค.) ที่ผ่านมาด้วยบรรยากาศที่ตึงเครียด
ทั้งนี้ อพท.น่าน นำโดย ดร.ชุมพล มุสิกานนท์ ผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษเมืองเก่าน่าน พร้อมด้วย นายสุขสันต์ เพ็งดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารแผนงาน อพท.น่าน, นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน, นายสมเจตน์ วิมลเกษม ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรม อพท.น่าน, นายสโรจน์ รัตนมาศ วัฒนธรรมจังหวัดน่าน และในฐานะเลขาคณะอนุกรรมการเมืองเก่าน่าน  และ พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ตลับเพชร์สกุล รองผู้กำกับการจราจร สภ.เมืองน่าน ได้ชี้แจงถึงกรณีดีงกล่าวว่าเป็นโครงการพัฒนาเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่เมืองเก่าน่านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยงเชิงศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออก
บรรยากาศการชี้แจง เป็นไปด้วยความตึงเครียด ท่ามกลางความคลางแคลงใจของประชาชนที่ติดตามกระแสดังกล่าว โดยเนื้อหาสำคัญหลัก คือ ความไม่เหมาะสมในการใช้งบประมาณ 16 ล้านบาท ซึ่ง อพท.น่าน ใช้วิธีการตกลงราคา ซึ่งมีระเบียบของ อพท.ในการจัดซื้อจัดจ้างได้เอง ทำให้เกิดความสงสัยในขั้นตอนการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งทาง อพท.ชี้แจงว่า หากประชาชนต้องการดูเอกสารดังกล่าว สามารถทำหนังสือมายื่นขอตรวจสอบได้ 
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการอ้างถึงผลประชาคมในการพัฒนาเขตเมืองเก่าด้วยคนจำนวน 350 คนแทนคนน่านทั้งจังหวัดกว่า 4 แสนคน ซึ่งอ้างว่าทั้ง 350 คน เห็นชอบกับโครงการทั้งหมดโดยไม่มีการคัดค้าน ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่มองว่า ขั้นตอนการพิจารณาและการรับฟังความคิดเห็นรวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นเพียงการทำให้กระบวนการสมบูรณ์มากกว่าที่จะเล็งเห็นถึงผลความต้องการของประชาชนที่แท้จริง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ประเด็นสำคัญ คือ ความปลอดภัยบนท้องถนน ซึ่งพบว่าในช่วงวันที่ 5 ธันวาคม 57 ที่ผ่านมา บริเวณถนนที่ทาสี มีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ลื่นล้มหลายคัน และบางรายถึงกับต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน ซึ่งทางตัวแทนวิศวกรที่ออกแบบถนน ได้ชี้แจงว่า ถนนที่ทาสี เป็นการออกแบบปรับปรุงพื้นผิวถนนโดยการปูยางแอสพัสต์ หนาเฉลี่ย 3 เซนติเมตร และทาสีทับด้วยอครีลิคโพลิเมอร์ ผสมซิลิก้า หรือทราย เพื่อให้เกิดความหนืดและฝืด เพื่อความปลอดภัย แต่กรณีที่เกิดอุบัติเหตุต้องมีการทบทวนว่าควรต้องให้ผู้รับเหมาเพิ่มซิลิก้าอีกหรือไม่ เพื่อให้พื้นผิวเกิดความหยาบหนามากขึ้น ซึ่งในกรณีนี้ประชาชนได้แสดงความกังวลว่า หากเกิดอุบัติเหตุบนพื้นที่ที่หยาบมากเกินไปจะยิ่งทำให้ได้รับบาดเจ็บมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นปลีกย่อยอีกหลายประเด็น ที่ประชาชนได้พยายามส่งคำถามผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งทางโทรศัพท์และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตอบคำถาม แต่ในช่วงระยะเวลากว่า  2  ชั่วโมง ยังไม่มีคำตอบจากหน่วยงานใดที่จะให้ความกระจ่างกับสังคมเมืองน่านได้เลย
ประชาชนเมืองน่าน ยังเรียกร้องให้ อพท. ทบทวนและยกเลิกโครงการดังกล่าว  ซึ่งทาง อพท.น่าน ได้ชี้แจงในประเด็นนี้ว่า การยกเลิกสัญญาจะทำให้ฝ่ายรัฐซึ่งเป็นว่าผู้ว่าจ้างเสียประโยชน์ การยกเลิกสัญญาหรือโครงการจึงทำไม่ได้ แต่การเดินหน้าทำโครงการดังกล่าวต่อไปจะพยายามปรับให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด พร้อมทั้งยอมรับในข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นและกล่าวขอโทษชาวน่านกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
ทั้งนี้การชี้แจงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อประเด็นร้อนดังกล่าวของ จ.น่าน ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ เนื่องจากการยืนยันเดินหน้าโครงการของ อพท. ยังอยู่ท่ามกลางกระแสคัดค้านและความเคลือบแคลงสงสัยในการบริหารจัดการที่ไม่เหมาะสมและไม่สอดคล้องกับความเป็นเมืองเก่าน่าน โดยกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของคนเมืองน่านก็ยังคงอยู่และมีแนวโน้มที่จะคัดค้านต่อต้านโครงการทาสีถนนเมืองน่านต่อไป
ทางด้านนายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ชี้แจงว่า แม้จะรับทราบที่มาที่ไปของโครงการและเป็นหน่วยงานที่อนุญาตให้ อพท.น่าน ใช้พื้นที่ในเขตเทศบาลดำเนินโครงการดังกล่าว ก็ยังกังวลถึงผลกระทบโดยเฉพาะเรื่องพื้นผิวที่อาจเป็นจุดเสี่ยงให้เกิดอันตรายบนท้องถนน ซึ่งอาจกระทบต่อภาพลักษณ์ที่เทศบาลเมืองน่านกำลังเดินหน้าสู่ชุมชนปลอดภัยระดับโลก