ชาวบ้านเชียงรายขอตรวจสอบ"ของกลางคดีพงศ์พัฒน์" หลังพระพุทธรูปหายจากวัดเมื่อ 36 ปีก่อน

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.2557 ที่วัดหลวง ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สร้างมานานกว่า 700 ปี หรือประมาณปี พ.ศ.1805 ต้องนำพระพุทธรูปปางต่างๆที่มีอยู่จำนวน 15 องค์ มาขังเอาไว้ในกรงเหล็กขนาดใหญ่ พร้อมกุญแจอย่างแน่นหนา เนื่องจากเคยถูกโจรกรรมพระพุทธรูสิงห์ 1 เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ซึ่งหลังจากที่มีข่าวว่าสามารถตรวจยึดของกลางที่เป็นทรัพย์สินของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. แล้วพบว่ามีวัตถุโบราณ และพระพุทธรูปจำนวนมากซึ่งเก็บสะสมมากว่า 20 ปี ทำให้ชาวบ้านในบ้านหลวง ต.ครึ่ง อ.เชียงของ จ.เชียงราย สงสัยว่าจะมีพระพุทธรูปสิงห์ 1 ที่ถูกคนร้ายมาขโมยไปเมื่อ 36 ปีก่อนด้วยหรือไม่เพื่อจะได้นำกลับมาประษฐานไว้ที่วัดหลวงเช่นเดิม
พระอธิการบุญเพ็ชร วรธัมโม เจ้าอาวาสวัดหลวง กล่าวว่า เมื่อประมาณ 36 ปีก่อนพระพุทธรูปที่วัดหลวงมีพระพุทธรูปปางต่างๆอยู่ 16 องค์ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารวัด โดยในคืนวันที่ 10 มี.ค.2521 ได้มีคนร้ายลอบเข้ามาโจรกรรมพระพุทธรูปสิงห์ 1 ไปจนกระทั่งรุ่งเช้าพระในวัดก็ได้เข้ามาประกอบพิธีสงฆ์ตามปกติได้สังเกตเห็นว่าพระพุทธรูปหายไปจึงได้พากันออกติดตามแต่ก็ไม่พบ และต่อมาก็มีการเข้ามาโจรกรรมพระพุทธรูปขนาดต่างๆไปอีก ทำให้ชาวบ้านต้องหาวิธีป้องกันโดยการสร้างลูกกรงขังพระพุทธรูปไว้โดยใส่กุญแจแน่นหนาเพื่อป้องกันการถูกโจรกรรมอีก
ทั้งนี้ จากที่ได้มีข่าวการตรวจยึดทรัพย์สินของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พบว่ามีพระพุทธรูปและวัตถุโบราณจำนวนมากจึงอยากจะขอตรวจสอบว่ามีพระพุทธรูปสิงห์ 1 ที่หายไปรวมอยู่ด้วยหรือไม่ ซึ่งทางวัดก็มีหลักฐานเพียงบันทึกทรัพย์สินของทางวัดระบุเป็นรายลักษณ์อักษรเท่านั้น แต่ผู้ที่จำพระพุทธรูปได้ก็จะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน หากมีโอกาสก็อยากจะไปตรวจสอบดูเพราะอยากให้พระพุทธรูปดังกล่าวกลับาอยู่ที่วัดอีกครั้ง
ด้านนายประพัฒน์ แก้วตา อายุ 61 ปี อดีตกำนันตำบลครึ่ง กล่าวว่า หลังจากที่พระพุทธรูปสิงห์ 1 ซึ่งเป็นเนื้อทองสำริด ขนาดหน้าตักกว้าง 22 นิ้ว สูง 25 นิ้ว ขนาดรอบเศียรพระ 18 นิ้ว 2 เซ็นติเมตร มีจิกโมลีบนเศียร ซึ่งหลังจากที่พระพุทธรูปได้หายไปชาวบ้านต่างไม่สบายใจและยังคงติดใจกับพระที่หายเพราะเป็นพระคู่บ้านหากมีโอากาสก็อยากให้เจ้าหน้าที่เปิดโอกาสให้ทางชาวบ้านได้เข้าไปตรวจสอบเพราะยังคงมีผู้ที่จำพระพุทธรูปได้อย่างแม่นยำเมื่อเห็นก็จะสามารถบอกได้ทันทีว่าใช่พระพุทธรูปที่หายไปหรือไม่ หากว่าพบอยู่ในของกลางที่ตรวจยึดได้ก็อยากจะนำพระพุทธรูปกลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้ง