ดักสังหารโหดแกนนำต้านเหมืองแร่นบพิตำ

            เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.57 ที่ จ.นครศรีธรรมราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายก่อเหตุสังหารแกนชาวบ้านต่อต้านเหมืองแร่ที่ส่งผลกระทบต่อที่ทำกินและสิ่งแวดล้อม ท่ามกลางความตกตะลึงของหลายฝ่ายรวมทั้งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
เหตุการณ์นี้ได้ถูกเปิดเผยขึ้นหลังจากที่ ร.ต.ท.สุรศักดิ์ อร่ามเรือง พนักงานสอบสวนเวร สภ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมบนถนนลูกรังทางขึ้นห้วยหินขาว ภูเขาไม้ไผ่ หมู่ที่ 8 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ มีผู้เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก. กำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สายตรวจตำบลกรุงชิง เจ้าหน้าที่วิทยาการ แพทย์เวรชันสูตร รพ.ท่าศาลา เข้าทำการตรวจสอบในที่เกิดเหตุทันที
            ในที่เกิดเหตุพบศพนายพิธาน ทองพนัง อายุ 45 ปี อยู่ ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพอยู่ในชุดเสื้อยืดสีแดงกางเกงวอร์มขายาว ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำ ล้มคว่ำอยู่ 1 คัน ส่วนศพของนายพิธานเมื่อมีการชันสูตรพบว่ามีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณลำตัว และศีรษะ โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ยังไม่พบวัตถุพยาน หรือหลักฐานเนื้องจากอยู่ในสภาพมืดค่ำและมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่และเข้าเก็บหลักฐานอีกครั้งในวันรุ่งขึ้น
            พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.นบพิตำ เปิดเผยว่าพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุนั้นพบว่านายพิธานขับรถลงมาจากบ้านห้วยหินขาว เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายดักรออยู่แล้วก่อนใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ 2 นัดเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุนั้นยังไม่ทราบแน่ชัดแต่พบว่ามีความขัดแย้งกับกลุ่มธุรกิจเหมืองแร่ หรืออาจะเป็นเรื่องส่วนตัวแต่ยังไม่ยืนยันแน่ชัด  เช้าวันนี้ฝ่ายสืบสวนได้เข้าพื้นที่ติดตามข้อมูลเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
            ขณะที่ พ.ต.อ.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ รอง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าได้เข้าสนับสนุนติดตามคดี โดยพบข้อมูลสำคัญในหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องของการเป็นแกนนำชาวบ้านในการคัดค้านเหมืองแร่ในพื้นที่ ซึ่งเย็นวันนี้จะมีการประชุมติดตามคดีนี้ โดย พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอาง ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้ส่ง พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.กก.สส.เข้าร่วมในการสืบสวนคลี่คลายคดี
            ญาติผู้ตายระบุว่าก่อนเกิดเหตุนั้นนายพิธานได้ขับรถจักรยานยนต์ขึ้นไปประสานงานบ้านที่ได้รับผลกระทบใน 2 ส่วน คือส่วนของการออกแนวเขตเหมืองที่ไปทับที่ทำกินของชาวบ้าน และการทำเหมืองที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ราว 55 ราย โดยได้ไปแจ้งถึงกำหนดการที่ทีมทนายความของคณะอนุกรรมการฝ่ายคดีสิ่งแวดล้อม สภาทนายความแห่งประเทศ จะลงพื้นที่ในวันที่ 9 ธ.ค. หลังจากที่มีหน่วยงานราชการหน่วยหนึ่งเข้ากดดันแกมข่มขู่นายพิธานให้ยอมความในคดี เพื่อความปรองดองสถานฉันท์ โดยมีนัดที่จะเจรจากันในวันที่ 9 ธ.ค.ที่ อบต.กรุงชิง โดยนายพิธานได้ประสานทีมทนายความจากสภาทนายความเข้าร่วมด้วย และได้ลงขันเพื่อเป็นค้าเครื่องบินให้กับทีมทนายความเนื่องจากทีมทนายความเป็นทนายความที่เข้าช่วยเหลือโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ชาวบ้านจึงช่วยกันดูแลด้วยการลงขันเป็นค่าตั๋วโดยสารก่อนที่จะมาเกิดเหตุขึ้น                           
สำหรับนายพิธานเป็นแกนนำคนสำคัญของชาวตำบลกรุงชิงที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ และเป็นตัวแทนผู้รับมอบอำนาจของชาวบ้านเข้ายื่นร้องต่อหลายหน่วยงานโดยเฉพาะศาลปกครองนครศรีธรรมราช  ด้วยความช่วยเหลือของคณะอนุกรรมการฝ่ายคดีสิ่งแวดล้อมสภาทนายความ เข้าเป็นทีมทนายในการดำเนินคดี โดยล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายพิธาน ได้นำคณะของนายอาทร คุระวรรณ ตุลาการศาลปกครองนครศรีธรรมราช ในฐานะตุลาการเจ้าของคดี ที่นายพิธานเป็นตัวแทนชาวบ้านเป็นผู้ร้อง เข้าเผชิญสืบในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมในเชิงประจักษ์
            ก่อนหน้านั้นผู้สื่อข่าวได้เคยถามนายพิธานว่าเป็นแกนนำสู้กับกลุ่มนายทุนเช่นนี้ว่าไม่กลัวถูกยิงหรือ นายพิธานตอบว่า พร้อมตายอยู่แล้ว ถ้ามันยิงถูกผมก็ตาย จนกระทั่งนายพิธานมาถูกยิงตายในที่สุด