กรมศิลป์ยันของกลางคดี"พงศ์พัฒน์" เป็นวัตถุโบราณหายาก

กรมศิลป์ยันของกลางคดี"พงศ์พัฒน์" เป็นวัตถุโบราณหายาก
วันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร. ร่วมกับ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรรท.ผบช.ก. ได้นำสื่อมวลชนไปตรวจสอบทรัพย์สินของกลางที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ภายหลังการจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีต ผบช.ก.พร้อมพวก ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในฐานความผิดตามมาตร 112 เรียกรับผลประโยชน์ และผิด พรบ. ฟอกเงิน โดยให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ ก่อน พล.ต.อ.สมยศ พล.ต.ท.ประวุฒิ และพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร.จะจัดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ของกลางที่ได้มานี้เป็นร่วมกันจับกุมระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหาร โดยทรัพย์ที่เปิดให้สื่อมวลชนบันทึกภาพนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของทรัพย์ที่ยึดมาได้ อาทิ พระพุทธรูปโบราณ ทองคำแท่ง 24 แท่ง กรอบพระเลี่ยมทอง 225 กรอบ สร้อยคอทองคำ 224 เส้น ทองคำขาวหนัก 180 กก. โฉนดที่ดินมูลค่า 418 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆอีกจำนวนมาก ซึ่งของกลางประเภทวัตถุโบราณได้มอบให้กรมศิลปากรตรวจสอบ สำหรับทรัพย์สินอื่นๆจะส่งให้ ปปง.ตรวจสอบ และเพื่อให้สำนวนคดีมีหลักฐานแน่นหนาและรัดกุมได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผบ.ตร ร่วมตรวจสอบโดยการเก็บดีเอ็นเอพิมพ์ลายนิ้วมือหลักฐานต่างและของกลางที่เกี่ยวข้องว่ามีความเชื่อมโยงกับผู้ใดบ้าง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงคำให้การของ พล.ต.ท.พงพัฒน์ นั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เป็นเรื่องในสำนวน และอาจเกี่ยวข้องกับคนอื่นๆที่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ นอกจากนี้ ยังมีของกลางอื่นๆ ที่เคลื่อนย้ายลำบาก อาทิ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้มะค่า และไม้หายากที่ต้องใช้รถบรรทุกขนย้ายกว่า 80 คัน โดยจะส่งให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ ออป.ตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเก็บรักษาของกลางทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ทหารซึ่งมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดและปลอดภัย มีการติดตั้งกล้อง และจัดเวรยามดูแลอย่างดีที่สุด
ด้าน น.ส.พัชรินทร์ ศุภประมูล หัวหน้ากลุ่มทะเบียนคลังพิพิธภัณฑ์และสารสนเทศ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบต้องแบ่งประเภทวัตถุโบราณอีกครั้งว่าเป็นประเภทใดบ้าง ซึ่งหากเป็นวัตถุโบราณสมัยเก่าที่แท้จริงนั้น จะมีรูปแบบที่ไม่เหมือน ไม่ซ้ำกัน เนื่องจากทำขึ้นมาเพื่อบูชา เป็นความเชื่อ ไม่ใช่การค้า
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่ามีวัตถุโบราณหายากจำนวนมาก เช่น พระพุทธรูปไม้ สมัยอยุธยา ซึ่งมีครบทั้งองค์พระและฐาน ถือว่าเป็นของหายากมาก เพราะแม้กรมศิลปากรเองก็ยังไม่สามารถหาได้ครบเช่นนี้ นอกจากนี้ ยังมีพระเครื่องใหญ่ ซึ่งยอมรับว่าสวยและหายากมาก อย่างไรก็ตาม บุคคลทั่วไปสามารถที่จะมีไว้ในครอบครองได้ หากสามารถตรวจสอบถึงที่มาที่ไปได้ เช่นเป็นสมบัติ หรือมรดกตกทอดในวงศ์ตระกูล