กรมควบคุมมลพิษ จ่ายร่วมหมื่นล้าน ค่าเสียหายคลองด่าน

นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) เปิดเผยภายหลังทราบคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดว่า รู้สึกเครียด ที่ คพ.จะต้องจ่ายเงินให้กับกิจการร่วมค้า ซึ่งขณะนี้ ยังไม่ทราบตัวเลขแน่ชัดว่าเป็นเงินจำนวนเท่าไร

แต่ เป็นเงินตั้งต้น สำหรับการฟ้องร้องอยู่ประมาณ 6 พันล้านบาท บวกดอกเบี้ยอีก 7.5% เป็นเวลา 10 ปี น่าจะอยู่ที่ตัวเลขประมาณ 10,000 ล้านหมื่น ซึ่ง คพ.ก็คงต้องยอมรับในคำตัดสินของศาล และตามขั้นตอนของราชการแล้ว คงต้องขอเงินจากงบประมาณกลาง ไม่เกี่ยวข้องกับงบประจำปีของ คพ.ซึ่งงบประมาณประจำปีของ คพ.จะอยู่ที่ปีละ 500 ล้านบาทเท่านั้น

เมื่อถามว่า มีแนวทางอะไรที่จะคลี่คลาย หรือผ่อนหนักเป็นเบาหลังจากนี้หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า คงไม่มีแล้ว เรื่องคงจบแค่นี้ เพราะศาลปกครองสูงสุดได้ตัดสินออกมาแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ก็คงต้องหารือกับนักกฏหมาย เพื่อตั้งกรรมการสอบสวนหาตัวผู้ที่จะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ หรือตามระเบียบราชการคือ หาผู้รับผิดทางละเมิด ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ได้รายงานด้วยวาจากับ พล.อ.ดาวพงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้ว แต่ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด

เมื่อถามอีกว่า ตอนนี้ระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ที่เป็นความกันอยู่นั้น มีสภาพเป็นอย่างไร ยังใช้การได้หรือไม่ นายวิเชียร กล่าวว่า หลังจากมีคดีเกิดขึ้นนั้น ทางกิจการร่วมค้าเป็นผู้ดูแล คพ.ไม่ได้เข้าไปดูแล แต่หลังจากที่ศาลตัดสินแล้ว ถือว่า ระบบบำบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นสมบัติของราชการ ซึ่งต้องเข้าไปตรวจสอบอีกทีว่าสภาพเป็นอย่างไร ใช้การได้อยู่หรือไม่
นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า จากนี้ไปจะทำเรื่องถึงกระทรวงทรัพยากรและรัฐบาลเพื่อของบกลางมาจ่ายตามคำพิพากษาของศาล พร้อมกับยื่นขอศาลปกครองสูงสุดขยายระยะเวลาการชำระเงินจากที่ศาลมีคำพิพากษาให้จ่ายเงินภายใน 90 วันออกไปด้วย

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่มีการยกเลิกสัญญากับบริษัทร่วมค้าทั้ง 6 ราย เนื่องจากบริษัทจากต่างประเทศที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องการบำบัดน้ำเสีย ได้ถอนตัวจากร่วมโครงการของบริษัทร่วมค้าออกไป ทำให้สัญญาที่ทำไว้เป็นโฆษะ จึงเกิดการฟ้องร้องกันขึ้น