การพบซากทารกเเละชิ้นส่วนอวัยวะ รวมทั้งเเผ่นผิวหนังลงอักขระ ที่ถูกบรรจุในกล่องพัสดุ เตรียมส่งไปยังปลายทาง ในประเทศสหรัฐอเมริกา กลายเป็นประเด็นที่ไม่ใช่เพียงไสยศาสตร์ เพราะชิ้นส่วนเหล่านี้ ได้เกี่ยวพันกับคดีอาชญากรรม เมื่อชาวอเมริกัน 2 ราย ถูกออกหมายจับ ในคดีลักทรัพย์ของพิพิธภัณฑ์ศิริราช และล่าสุดตำรวจอยู่ระหว่างประสานกับเอฟบีไอ ให้ส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย
ข้อมูลจากฝ่ายสืบสวนนครบาล เชื่อว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย มีการเตรียมการมาอย่างดี โดยอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเข้าออกประเทศ เเละการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น เพื่อหาความเชื่อมโยงกับผู้ร่วมขบวนการ หรือผู้ต้องหาที่มีประวัติค้าชิ้นส่วนมนุษย์หรือไม่
แนวทางการสืบสวนพบว่า ปัจจุบันชาวยุโรปและชาวอเมริกันบางกลุ่ม มีความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ และนิยมสะสมเครื่องรางของขลังแปลกๆ จึงอาจเป็นที่มาของเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยประเทศไทยถือว่า เป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจค้าเครื่องรางของขลัง
โดยการแลกเปลี่ยนชิ้นส่วนมนุษย์ เพื่อทำลูกกรอกหรือกุมารทอง หลายประเทศในแถบเอเชีย โดยเฉพาะ สิงคโปร ไต้หวัน ไทเป มีความนิยมหาซื้อ แต่ระยะหลังพบว่า ประเทศแถบยุโรปและอเมริกา ก็เริ่มให้ความสนใจ แต่การขโมยชิ้นส่วนอวัยวะในลักษณะดองในขวดโหลเเละส่งพัสดุออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย ถือว่า เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย
หลังจากนี้ ตำรวจไทยได้เตรียมประสานตำรวจสากล กองการต่างประเทศ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เกี่ยวกับข้อมูลอาชญากรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้ เพราะหากเป็นขบวนการค้าชิ้นส่วนมนุษย์จริง ถือว่าเป็นอาชญากรข้ามชาติ ซึ่งแต่ละประเทศต้องเฝ้าระวัง