นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ อดีตผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า ผู้อำนวยการโรงเรียนรัคสคูล สอนหลักสูตรการปรองดอง ในฐานะนักสันติวิธี ให้ความเห็นกรณี ปัญหาสื่อกับ คสช. กรณีรายการ "เสียงประชาชนต้องฟังก่อนปฎิรูป" ช่องไทยพีบีเอส ว่า ได้ยินข่าวแล้วเป็นห่วง เข้าใจทั้งฝ่ายสื่อและฝ่ายทหาร ยุคนี้เป็นยุคที่เราต้องสร้างปรองดอง การที่เราไปจัดเวทีอะไรก็แล้วแต่ ก็จะต้องมีทักษะในการสื่อสาร ที่จะไม่มีการชี้นำ หรือทำให้เกิดความรู้สึกว่า ยืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่ง ที่สำคัญผู้ดำเนินรายการเวทีอย่างนี้ ไม่ใช่ใครก็ได้มาจัด จะต้องเป็นเวทีที่ผ่านการฝึกอบรมมา รู้จักและเข้าใจทักษะของการสื่อสาร คู่มือของผู้สร้างความปรองดองให้กับกรมสุขภพาพจิตส่วนการที่ทหารเข้ามา การเมืองถึงทางตัน สื่อเองถ้าจะทำเรื่องนี้ เป็นสิทธิของสื่อ ที่จะจัดเวทีอะไรแบบนั้นก็ได้ แต่การนำเสนอไม่ให้เกิดความขัดแย้ง การนำเสนอหรือจะจัดเวทีนั้น การตั้งคำถาม เราจะต้องตั้งคำถามแบบเปิดกว้าง ไม่ชี้นำ จนกระทั่งคนบางกลุ่มมองว่าสื่อเอียงหรือไม่ เพราะสื่อเวลาจะต้องทำหน้าที่อย่างคนกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ใช่เอียงไปทางทหาร หรือฝว่ายการเมือง หรือใครก็แล้วแต่
อดีตผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีฯ บอกอีกว่า มองในแง่ของสื่อว่า ทหารเข้ามาแล้วใช้อำนาจบีบบังคับไม่ให้เสนอข่าว ก็มองได้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่า ทหารเองเข้ามาเพราะเกิดความขัดแย้ง สื่อจะต้องเรียนรู้กระบวนการที่จะนำเสนออย่างที่ไม่ใช่การชี้นำ ประเด็นหลักของการนำเสนอเรื่องอะไรก็แล้วแต่ โดยเฉพาะในยุคนี้ ไม่ใช่ใครนึกจะพูดอะไรก็ได้ เราต้องตั้งหลัก อยู่เสมอว่าเรากำลังหาทางออกให้ประเทศชาติ
สิ่งสำคัญที่สุด สื่อจะต้องฟังมากๆ จากประชาชนหลายๆ ฝ่ายให้เขาพูดอะไรออกมา และมีการนำเสนอ กติกา 1.มองอดีตเป็นบทเรียน 2.ไม่ชี้หน้าด่ากัน อดีตเปลี่ยนไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงอดีตก็จะบอกว่าใครถูกใครผิด วันนี้จะหาใครถูกใครผิดต้องไปที่ศาล แต่ถ้าจะหาทางออกให้ประเทศชาติ เราจะต้องมองอนาคต ฉะนั้น จะจัดเวทีอะไรก็ตาม ต้องดูว่าประชาชนอยากเห็นอะไร ความฝัน ความหวังที่จะมีร่วมกัน คือ สิ่งที่สื่อต้องจัด