นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึง นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการเลขาธิการสภาฯ โดยมีนายคุณวุฒิ ตันตระกูล รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับหนังสือแทน เพื่อขอทราบผลความคืบหน้าการทุจริตการจัดซื้อนาฬิกาจำนวน 200 เรือน มูลค่า วงเงิน 15 ล้านบาท หรือเรือนละ 7.5 หมื่นบาท
เนื่องจากได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อขอให้สอบสวนการทุจริตโครงการต่างๆ ของนายสุวิจักขณ์ นาควัชระชัย อดีตเลขาธิการสภาฯ และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา โดยนายจเร ได้รับปากจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน แต่บัดนี้ได้เลยระยะเวลาดังกล่าวแล้ว จึงได้ติดตามทวงถามถึงความคืบหน้าการทุจริตในโครงการทั้งหมดรวมถึงผลการสอบสวน
ทั้งนี้ล่าสุด การทุจริตนาฬิกาแขวนผนัง ที่ทางสภาฯ ยืนยันว่าไม่มีวันตายและเดินตรงกันทุกเรือน แต่พบว่ามีนาฬิกา 2 เรือนที่โรงอาหารในสโมสรรัฐสภา หยุดเดินไปหลายเดือนแล้ว อีกทั้งยังทราบว่า บริษัทฯ ที่มาติดตั้งได้ทำหนังสือเลขาธิการสภาฯเพื่อยกนาฬิกาทั้งหมดให้สภาฯ เพราะกลัวความผิด แต่ทางสภาฯไม่รับมอบนาฬิกาดังกล่าวทั้งหมด
นอกจากนี้ยังขอเอกสารโครงการจัดซื้อจัดจ้างห้องออกกำลังกาย ที่สโมสรรัฐสภามูลค่า 40 ล้านบาท และยังพบว่ามีปัญหาการทุจริตห้องน้ำ มูลค่า 15 ล้านบาท ที่อาคารกษาปณ์ ถ.ประดิพัทธ์ รวมถึงห้องนักข่าวที่อาคารรัฐสภาวงเงิน 5 ล้านบาทที่พบว่ามีราคาสูงทั้งที่ไม่มีการตอกเสาเข็มหรือมุงหลังคา
ด้านนายคุณวุฒิ กล่าวภายหลังการรับหนังสือ พร้อมชี้แจงผลความคืบหน้าในการสอบสวนการทุจริตการจัดซื้อนาฬิกาว่า ขณะนี้ได้ไปแจ้งความแก่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งนายสุวิจักขณ์ ต่อสถานีตำรวจดุสิต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 พร้อมส่งเรื่องไปให้คณะกรรมการ ปปช. ตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกันนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.ในฐานะประธานรัฐสภา ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงแก่ข้าราชการที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ขณะที่นายสุวิจักขณ์ ที่ถูกย้ายไปประจำสำนักนายกฯ ขณะนี้ก็มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทางวินัยร้ายแรง โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ เป็นประธานในการตรวจสอบเช่นกัน ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบอยู่
ส่วนการดำเนินคดีแก่บริษัทที่สภาฯ จัดซื้อนาฬิกานั้น ได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจบางซื่อ ในฐานความผิดปลอมแปลงเอกสารเท็จ เพราะมีการทำสัญญาที่อาคารกษาปณ์ และกรณีที่ทางสภาฯ ไม่รับนาฬิกาดังกล่าวเนื่องจากอาจจะกระทบต่อรูปคดีที่อยู่ระหว่างสอบสวน โดยมีแนวโน้มจะไม่รับนาฬิกาดังกล่าวทั้งหมด ขณะที่ห้องออกกำลังกาย ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการยกเลิกสัญญาเช่นกัน