เมื่อเวลา 10.20 น. นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวว่า ส่วนตัวคาดหวังกับการสัมนาครั้งนี้ โดยเฉพาะการตั้งเป้าใน 3 เรื่อง อาทิ การสนิทสนมและการคุ้นเคยกัน เพราะการทำงานข้างหน้าของสปช.ที่มาจากต่างอาชีพ ถ้ามีการทำความคุ้นเคยกัน ก็จะเป็นเรื่องที่ดี
ขณะเดียวกันถ้าได้คิดในเทคนิครูปแบบเดียวกัน ก็จะเห็นภาพข้างหน้าอย่างไรต่อไปของประเทศไทย ซึ่งเป็นกรอบสำคัญมากในการปฏิรูปทั้ง 18 ด้าน ทั้งนี้ ยืนยันว่า กมธ.ทั้ง 18 คณะจะไม่มีอุปสรรค เพราะสปช.จะมีการประชุมในวันที่ 11 พ.ย. ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสปช. ที่ 83 และ 84 โดยให้กมธ.18 ด้าน มีตัวแทนมาเป็นกมธ.กิจการสภา และสิ่งนี้ก็คือเงื่อนไขการทำงานของสปช.ที่จะมีกลุ่มบุคคลที่เป็นกมธ.มารับฟังความเห็นและการมีส่วนร่วมของประชาชน และกมธ.ประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
" งานจะเดินจากตรงนี้จะเร็วมาก เพราะขณะนี้ใกล้เวลาที่เราจะต้องเสนอความเห็นต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญแล้ว ดังนั้น เราคงต้องเตรียมกรอบความเห็นให้เร็วที่สุด ซึ่งไม่เป็นอุปสรรค เราจะไปด้วยกันได้ดี ซึ่งอาจต้องปรึกษาบุคคลภายนอกสปช. และขณะนี้มีบุคคลยื่นความจำนงเข้ามาแสดงความคิดเห็นแล้ว
ส่วนการจัดเวทีแสดงความเห็นทั้งที่เป็นเรื่องผลงานวิจัย ผลการศึกษา สปช.จะเริ่มเข้าไปรับฟังและเก็บความเห็น อาทิ ผลงานของสถาบันพระปกเกล้าฯ และสัปดาห์หน้าอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ก็จะเข้ามายื่นผลงาน นิด้าโมเดล รวมถึงผลงานด้านสื่อสารมวลชนจากกลุ่มมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็จะมาให้ข้อมูลในสัปดาห์หน้าเช่นกัน"นายเทียนฉาย กล่าว
นายเทียนฉาย กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมการรับฟังความคิดเห็นตามพื้นที่ต่างๆ ขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดชัด ซึ่งส่วนตัวอยากจะรอให้กมธ.การมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นก่อนทำหน้าที่ เพราะวิธีการและรูปแบบเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น อยากให้ดูเทคนิควิธีเก็บข้อมูลที่ได้ฟังมาแล้ว มาวิเคราะห์เพื่อให้เกิดประโยชน์
โดยข้อมูลนั้นต้องไม่มีอคติ อย่างไรก็ตาม การรับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมามีปัญหาอย่างหนึ่ง คือ หน่วยบริหารการจัดการมักเกณฑ์กลุ่มคนเดิมๆมาฟัง และให้ความเห็นซ้ำๆ ทำให้ความเห็นไม่กระจาย ดังนั้น คราวนี้จะต้องไม่มีการเกณฑ์ และด้านหนึ่งหนุนให้มีความเห็น และเมื่อมีเวทีเปิดสปช.ก็ต้องเข้าไปรับฟังด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายกังวลว่าข้อมูลนำมาประมวลอาจไม่ถึงกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญจนนำไปสู่การปรับปรุงนั้น นายเทียนฉาย กล่าวว่า สปช.มีมาตรการนำไปสู่การปฏิบัติจริง ซึ่งเตรียมไว้อยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีกมธ.ที่มาดูเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวก็ได้รับไว้ และรองประธานก็รับไว้ แต่ถ้ามีการแสดงความเห็นเข้ามาก็พร้อมรับ โดยจะเปิดตู้ปณ.ให้แสดงความเห็น โดยไม่ต้องระบุชื่อนามสกุลก็ได้
รวมถึงทางระบบออนไลน์ก็จะเปิดได้สัปดาห์นี้ ส่วนประเด็นที่จะให้พรรคการเมืองเสนอความเห็นมานั้น ประเด็นนี้กมธ.ที่มีส่วนร่วมต้องเป็นผู้พิจารณา แต่ตนเห็นว่า ใครก็ตามที่ต้องการให้ความเห็น ก็สมารถเสนอเข้ามาได้ รวมถึงผู้เห็นต่างทางการเมือง ที่อยากเห็นอนาคตประเทศเดินไปข้างหน้าและไม่ต้องการเห็นความขัดแย้ง
เมื่อถามว่า จะนำข้อเสนอพระปกเกล้าในเรื่องการถ่วงดุลอำนาจมาพิจารณาหรือไม่ นายเทียนฉาย กล่าวว่า คงมาเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งการวิจัยดังกล่าวเข้าใจว่าเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้าฯได้ชี้แจงว่าไม่ใช่ เพราะเป็นความเห็นของผู้อภิปราย และคิดว่าประเด็นนี้สถาบันพระปกเกล้าต้องไปสังเคราะห์ความคิดเห็นอีกครั้ง ว่าจุดยืนสถาบันเป็นอย่างไร โดยเฉพาะข้อเสนอให้มีการจัดดุลอำนาจอภิรัฐมนตรี ก็ถือเป็นข้อเสนอที่พร้อมรับฟังได้