15.00 น. วันที่ 8 พ.ย. พล.ต.ต. อภิชัย ธิอามาตย์ ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว แถลงข่าวการจับกุม นายดิมิทริ พินดุยริน (DMITRII PINDIURIN) อายุ 27 ปี สัญชาติ คีร์กิซ หนังสือเดินทางประเทศเคิกร์กิสถาน เลขที่ AC2439378 ผู้ต้องหาในคดีประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต, ทำหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์โดยผิดกฎหมาย, เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว ทำงาน (ประกอบธุรกิจนำเที่ยว,มัคคุเทศก์) โดยผิดกฎหมาย และให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้มงวดกับชาวต่างชาติ ที่แฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเข้ามากระทำความผิด และได้ร่วมกันออกตรวจสอบที่ บริเวณจุดชมวิวสามอ่าว ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต โดยซุ่มดูพฤติการณ์ของบุคคลต่างๆ ที่นำนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยว
จนกระทั่งเวลา 10.30 น วันที่ 8พ.ย. ปรากฏว่าได้มีชายชาวต่างชาติ ขับขี่รถยนต์ทะเบียน กพ 2835 ภูเก็ต มาจอดที่บริเวณดังกล่าว และนำนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 2 คนลงมาจากรถ หลังจากนั้นได้นำนักท่องเที่ยวเดินไปยังจุดชมวิวและพูดคุยแสดงท่าทาง แนะนำ บรรยายให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยแสดงบัตรเจ้าหน้าที่ของรัฐ ขอตรวจสอบและสอบถาม ได้ความจากนักท่องเที่ยวที่มาด้วยกันว่า ผู้ต้องหาได้ขายรายการนำเที่ยวและนำเที่ยวทัวร์รอบเกาะภูเก็ต โดยได้ซื้อมาเมื่อวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งผู้ต้องหารับว่าตนได้ทำหน้าที่ดังกล่าวจริง จึงได้ขอให้ผู้ต้องหานำตรวจค้นรถยนต์ทะเบียน กพ 2835 ภูเก็ต
ผลการตรวจค้นพบของกลางประกอบด้วย กระเป๋าสะพายสำหรับใส่คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค ยี่ห้อ STM สีดำ จำนวน 1 ใบ วางอยู่บริเวณเบาะหน้าด้านซ้าย และพบใบเอกสารขายโปรแกรมนำเที่ยวซึ่งยังไม่ได้ลงรายการนำเที่ยวและมีตราประทับบริษัทแห่งหนึ่ง จำนวน 25 ใบ, ใบแสดงราคารายการนำเที่ยวสถานที่ต่างๆเป็นภาษารัสเซียพร้อมแสดงระบุจำนวนราคา จำนวน 1 ใบ, แผ่นภาพแสดงโฆษณาสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่ใช้นำเสนอนักท่องเที่ยว จำนวน 15 แผ่น, แท็บเล็ตยี่ห้อแอปเปิ้ล รุ่น ไอแพด ซึ่งมีภาพแสดงรายการนำเที่ยวต่างๆ เพื่อใช้นำเสนอให้กับนักท่องเที่ยว จำนวน 1 เครื่อง,
สมุดบันทึกรายละเอียดรายการนำเที่ยวเล่มสีแดง จำนวน 1 เล่ม ภายในกระเป๋าสะพายดังกล่าว สอบถามผู้ต้องหารับว่าของกลางทั้งหมดเป็นของตนจริง โดยตนจะนำใบโฆษณารายการนำเที่ยวระบุโปรแกรมซิตี้ทัวร์ (รอบเกาะภูเก็ต) ซึ่งระบุจำนวนนักท่องเที่ยว ออกเดินจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ และจำหน่ายรายการนำเที่ยวพร้อมออกเอกสารตามใบโฆษณาให้นักท่องเที่ยว
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ประกอบกับผู้ต้องหาไม่สามารถที่จะแสดงเอกสารการอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว หรือ ใบอนุญาตทำงาน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฯ และพ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าวฯ
ต่อมาผู้ต้องหาได้เข้ามาพูดคุย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม โดยเสนอสินบนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจำนวน 40,000 บาท เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดกุมละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องทำการจับกุม หรือปล่อยตัวผู้ต้องหาไปโดยไม่ต้องดำเนินคดี
เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนทำการล่อซื้อ และได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบอีกว่ากระทำความผิดฐาน ให้ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินหรือประโยชน์ อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ อีกข้อหาหนึ่ง หลังจากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.กะรน ดำเนินคดี