svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สนช.ส่อไม่รับสอย "สมศักดิ์-นิคม" เหตุ รธน.50 สิ้นสุดแล้ว

06 พฤศจิกายน 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สนช.ส่อไม่รับสอย สมศักดิ์-นิคม เหตุ รธน.50 สิ้นสุดแล้ว ขณะที่ก๊วน 40ส.ว. เตรียมเสนอเปิดประชุมเปิดเผย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงความเคลื่อนไหวของสนช.ในการประชุมพิจารณาถอดถอน นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มาส.ว.โดยมิชอบ ในวันที่ 6 พ.ย.ว่า ที่ผ่านมา สนช.หลายคนได้มีการแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งด้านข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง กรณีสำนวนถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคม หลังจากได้ไปศึกษาสำนวนถอดถอนเรื่องดังกล่าวจากป.ป.ช.จำนวน 4,000 หน้า โดยขณะนี้เสียงของสนช.ส่วนใหญ่ได้แก่ สนช.สายทหาร สายข้าราชการ มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่ควรรับเรื่องการถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคมไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่า ฐานความผิดตามรัฐธรรมนูญปี 50 ไม่มีผลบังคับใช้แล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่สนช.จะรับเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาถอดถอนต่อไป เพราะฐานความผิดยังไม่ชัดเจน จึงเห็นว่าการไม่รับเรื่องเป็นแนวทางที่ดีที่สุด เพราะไม่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องเรื่องละเว้นปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ยังไม่อยากสร้างเงื่อนไขที่จะสร้างความขัดแย้ง ปลุกมวลชนขึ้นมาระลอกใหม่ ซึ่งจะกระทบต่อแนวทางสร้างความปรองดองของรัฐบาล อย่างไรก็ตามยังมีสนช.สายทหารบางคนมีความลังเลเรื่องข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญปี 50 ว่า จะเข้าเงื่อนไขที่จะรับเรื่องไว้ถอดถอนได้หรือไม่ โดยเกรงว่า ไม่ว่าจะลงมติรับหรือไม่รับเรื่องถอดถอน ก็อาจจะมีปัญหาถูกฟ้องร้องตามมาในภายหลังด้วย จึงจะขอใช้สิทธิงดออกเสียงในการลงมติครั้งนี้ ส่วนกลุ่มสนช.ที่ต้องการให้รับเรื่อง เพื่อเข้าสู่กระบวนการถอดถอนต่อไปนั้น ยังคงเป็นกลุ่ม 40 ส.ว.เป็นหลัก แต่ยังมีความพยายามล็อบบี้สนช.บางคนที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจ เพื่อขอให้รับเรื่องไว้พิจารณาก่อน เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการถอดถอนก่อน แล้วให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาชี้แจงเหตุผล ก่อนที่จะลงมติว่าจะถอดถอนหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การประชุมถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคมในวันที่ 6 พ.ย. วิปสนช.จะเสนอญัตติต่อที่ประชุมสนช.ขอให้เป็นการประชุมลับ เนื่องจากเกรงว่า เนื้อหาการอภิปรายอาจไปกระทบกับบุคคลภายนอก โดยเฉพาะผู้สนับสนุนของแต่ละฝ่ายจนกลายเป็นแรงกระเพื่อมขึ้นมาสังคมขึ้นมาอีก อย่างไรก็ตามยังมีสนช.จากกลุ่ม 40 ส.ว. จะเสนอญัตติต่อที่ประชุมสนช.ให้การประชุมเป็นแบบเปิดเผย ไม่ใช่การประชุมลับ เนื่องจากเห็นว่า หากมีการประชุมลับ และไม่ว่าจะมีมติแนวทางใดออกมา จะถูกสังคมตั้งข้อสงสัยได้ว่า มีการวิ่งเต้นล็อคผลการลงมติหรือไม่ ขณะที่เนื้อหาที่จะอภิปรายก็เป็นเรื่องข้อกฎหมายที่สังคมรับทราบโดยทั่วไปอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ควรปกปิดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเสียงสนช.ส่วนใหญ่ยังอยากให้มีการประชุมลับมากกว่า
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. กล่าวว่า ในการประชุมสนช.วันที่ 6 พ.ย. คาดว่า จะมีการขอเลื่อนวาระการถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคมมาพิจารณาเป็นวาระแรก เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการประชุมลับ และจะเสนอต่อที่ประชุมขอให้ประชุมแบบเปิดเผย อย่างไรก็ตามเสียงของสนช.ขณะนี้ยังมีความสูสีระหว่างฝ่ายที่อยากให้รับเรื่องไว้ก่อนและฝ่ายที่ไม่อยากให้รับเรื่องไว้ ซึ่งต้องรอฟังคำอภิปรายของสมาชิกในวันที่ 6 พ.ย.อีกครั้งก่อน ซึ่งจะมีผลกับการตัดสินใจลงมติของสมาชิกสนช.

logoline