พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. วันที่ 4 พ.ย. คนร้ายทั้งสองรายเห็นหญิงสาวชาวต่างชาติคือนางเอลซ่า เดินผ่านมาเพียงลำพังตรงบริเวณปากซอยสามเสน 3 จึงวางแผนชิงทรัพย์ผู้เสียหาย โดย นายสุรศักดิ์จะเดินตามผู้เสียหายไป ก่อนจะได้ใช้อิฐตัวหนอนทุบที่ศีรษะของผู้เสียหายจนล้มลง แล้วลากเข้าไปในซอยเพื่อหวังจะข่มขืน
แต่ผู้เสียหายต่อสู้ นายสุรศักดิ์จึงเอากระเป๋าของผู้เสียหายและวิ่งหนีออกมาหานายเชือนที่เป็นคนดูต้นทางและเรียกรถแท็กซี่เตรียมไว้ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุเสร็จ แต่พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ และรีบส่งตัวนางเอลซ่าเข้ารักษาตัวที่รพ.วชิระ
จากการสอบสวนนายสรุศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ปกติตนทำงานก่อสร้างอยู่ที่หัวหิน เพิ่งเข้ากทม.มาได้เพียงไม่กี่วัน โดยก่อนก่อเหตุ ได้เดินทางมาเที่ยวที่ถนนข้าวสารกับเพื่อน แต่ขากลับไม่มีเงินค่ารถ จึงคิดที่จะหาเหยื่อเพื่อชิงทรัพย์หาค่ารถกลับบ้านที่ย่านลำลูกกา
จากนั้นเห็นผู้เสียหายเดินมาเพียงลำพัง จึงลงมือใช้อิฐตัวหนอนที่เก็บมาจากข้างทางตีเข้าที่บริเวณท้ายทอยของผู้เสียหายจนล้มลง ก่อนจะลากเข้าไปในซอยหมายจะข่มขืน แต่ถูกผู้เสียถีบเข้าที่ขา ประกอบกับมีผู้เห็นเหตุการณ์ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ จึงรีบหนีออกมาหานายเชือน แต่ไม่พ้นมาถูกตำรวจจับกุมได้
ด้าน นายทอม บัสเลย์ (Tom baslays) อายุ 24 ปี ชาวอังกฤษ แฟนหนุ่มของผู้เสียหาย กล่าวว่า เบื้องต้นอาการของ นางเอลซ่า ดีขึ้น แต่ต้องพักรักษาตัวอยู่ที่รพ.วชิระ มีบาดแผลบริเวณหน้าผาก และท้ายทอย ทั้งนี้ตนและแฟนสาวได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยว
โดยก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นๆ มาด้วย แต่ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ในวันเกิดเหตุนั้นแฟนสาวรู้สึกหิว จึงเดินออกมาจากเกตเฮ้าตามลำพังเพื่อมาหาของกิน และก็เกิดเหตุร้ายขึ้น จากเหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ดีกับประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะจุดที่เกิดเหตุก็ถือว่าอยู่ใกล้สถานีตำรวจมาก แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา"ร่วมกันชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยทำให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจในเวลากลางคืน" ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนังงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป