รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล อ. ฉัตรชัย สาริกัลยะ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุปการตรวจสอบปริมาณข้าวในสต็อกจากโครงการจำนำข้าว เมื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจนทั้งหมด กระทรวงฯจะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายและการบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. อนุมัติแผนการระบายข้าว
อย่างไรก็ตาม ในการเดินทางเยือนจีน เพื่อร่วมประชุมทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ในสัปดาห์หน้า กระทรวงฯจะเจรจาให้จีนซื้อข้าวจากไทยเพิ่ม ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง จากที่รัฐบาลจีนซื้อไปแล้ว 1 ล้านตัน
ส่วนการทำจีทูจีกับประเทศอื่นๆ เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์อยู่ระหว่างเจรจา ซึ่งวิธีการระบายข้าวแบบจีทูจี มีความโปร่งใส สร้างความสบายใจทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย แต่ต้องเปิดช่องทางให้เอกชนผู้ส่งออกสามารถดำเนินธุรกิจได้ด้วย
ส่วนการระบายข้าววิธีอื่น คือ การเปิดประมูลแข่งขันราคาจากเอกชน โดยรัฐจะคิดราคาที่เหมาะสมไว้ หากเอกชนให้ราคาที่น่าพอใจจึงจะขาย ซึ่งข้าวในสต็อกส่วนใหญ่ 80% เป็นข้าวที่มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน แต่หากปรับปรุงสภาพก็สามารถขายได้ในราคาตลาด
ส่วนยุทธศาสตร์การวางแผนบริหารจัดการข้าวในอนาคต ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เร่งหาวิธีลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และส่งเสริมการปลูกข้าวที่มีคุณภาพต่อไป
ด้านนักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ นิพนธ์ พัวพงศกร กล่าวว่า การขาดทุนในโครงการจำนำข้าวที่เสียหายกว่า 6-7 แสนล้านบาท เป็นผลจากความผิดพลาดและการทุจริต ขณะที่มาตรการช่วยเหลือชาวนา โดยจ่ายเงินชดเชยไร่ละ 1 พันบาทเป็นเรื่องดีและจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ควรใช้ในระยะยาว
หากรัฐบาลสามารถหามาตรการประกันความเสี่ยงให้แก่เกษตรกร โดยเฉพาะปัญหาหลักที่มีผลกระทบต่อผลผลิต เหมือนที่ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อประกันต่างๆเพื่อช่วยลดความเสี่ยงเพิ่มความมั่นคงในชีวิตได้ จะเป็นการแก้ปัญหาให้เกษตรกรโดยที่รัฐไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินช่วยเหลือ ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก