svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

ลูกหนี้เบี้ยวค่างวดรถคันแรกกว่า 2 พันราย สรรพสามิตไล่บี้เงินคืน

28 ตุลาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ธุรกิจเช่าซื้อได้รับผลกระทบ หลังเศรษฐกิจทรุด ลูกค้าไม่สามารถผ่อนชำระค่างวดได้ ส่งผลรถถูกยึดรวม 1.4 หมื่นคัน ด้านสรรพสามิตเรียกเงินคืนรถคันแรกผิดเงื่อนไขกว่า 2,000 ราย

นายอนุชาติ ดีประเสริฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์และงานขายลูกค้ารายย่อย ธนาคารธนชาต ในฐานะ ปธ.สมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดเช่าซื้อยังไม่ค่อยดีนัก และน่าจะทรงตัวถึงสิ้นปีนี้ แต่ปี 2558 หลังจากมีเม็ดเงินจากภาครัฐเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คาดว่าแนวโน้มธุรกิจจะดีขึ้น แต่ไม่เร็วมากนัก ต้องจับตาดูงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป สิ้นปีว่า กำลังซื้อจะกลับมาหรือไม่

ส่วนคุณภาพสินเชื่อไม่ได้แย่ลงมากนัก โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล ทั้งระบบอยู่ที่ 3% เพราะสถาบันการเงินเข้าไปให้ความช่วยเหลือ และปรับโครงสร้างหนี้ให้ ทำให้รถที่ถูกยึดเริ่มทรงตัว ทั้งระบบมีรถถูกยึดที่ยังค้างสต็อกอยู่1.3-1.4 หมื่นคัน

นายสุรชัย จิตตรัตน์เสนีย์ ดำรงตำแหน่ง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนธุรกิจธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวถึงธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัทเซ็นเตอร์ ออโต้ ลีส จำกัด ว่า ธุรกิจเช่าซื้อปีนี้มีแนวโน้มไม่ดีโดยเฉพาะเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังได้รับผลกระทบจากรถคันแรก ทำให้ราคารถมือสองปรับลดลง 20-40% รวมถึงมีหนี้เสียเพิ่มขึ้นและมีอัตราการยึดรถสูงกว่าปีก่อน

นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เผยความคืบหน้าการจ่ายเงินโครงการรถยนต์คันแรกว่ากรมฯยังทยอยจ่ายเงินให้แก่ผู้ที่ขอใช้สิทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยในปีงบประมาณ 2558 กรมฯ ได้ตั้งงบประมาณไว้เพื่อโครงการดังกล่าวจำนวน1,600 ล้านบาท ขณะนี้จ่ายไปแล้วประมาณ 400 ล้านบาท ยังเหลือเงินที่รอการจ่ายอีกจำนวน 1,200 ล้านคาดจะทยอยจ่ายได้หมดตามระยะเวลาการใช้สิทธิ์ในเดือนสิงหาคมปี 2558 โดยยอดที่รอการจ่ายมีจำนวนประมาณ 6,000 ราย

ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการในช่วงปลายปี 2554 จนถึง 15 ต.ค.ที่ผ่านมากรมฯ ได้จ่ายเงินให้แก่ผู้ขอใช้สิทธิ์ไปแล้วจำนวน1,090,373 ราย เป็นเงินจำนวน 80,189 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีผู้ใช้สิทธิ์นำเงินมาคืน เนื่องจากผิดเงื่อนไขโครงการจำนวน2,335 ราย เฉลี่ยเป็นเงินประมาณ 7 หมื่นบาทต่อราย และมีจำนวนที่กรมฯ ได้เรียกเงินคืนจำนวน 2,175 ราย ในจำนวนนี้ได้ส่งหนังสือขอเรียกเงินคืนจำนวน 1,800 ราย,ขอผ่อนผันชำระ 61 ราย และได้ยื่นฟ้องร้องจำนวน 314 ราย

สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการและได้รับรถไปแล้วมีจำนวน 1,124,546 ราย เหลือที่รอรับรถและใช้สิทธิ์จำนวน 113,196 รายจนถึงเดือนตุลาคมนี้ ยังไม่มีผู้ลงทะเบียนมาขอรับรถและใช้สิทธิ์ในโครงการแต่อย่างใด ซึ่งกรมฯ เชื่อว่าโครงการนี้ จะสามารถปิดตัวลงได้ในเร็วๆนี้ ทำให้กรมฯไม่จำเป็นต้องตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายในโครงการอีกต่อไป

















logoline