บสย.จับมือเอดีบี-จีเอ็มเอส หนุนโนว์ฮาว"ค้ำประกันสินเชื่อ"รับเออีซี

บสย.จับมือ เอดีบี-จีเอ็มเอส หนุนโนว์ฮาว"ค้ำประกันสินเชื่อ" สู่กลุ่มประเทศ CLMV เพื่อสร้างโอกาสและขยายการลงทุนเชื่อมโยงการค้ารับเออีซี ขณะที่เมียนมาร์ส่งผู้แทนสถาบันการเงินและประกันมาศึกษาดูงานนายวิเชษฐ วรกุล รองผู้จัดการทั่วไป สายงานธุรกิจ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ภายใต้การกำกับดูแลโดยกระทรวงการคลัง ซึ่งทำหน้าที่ค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เปิดเผยว่า บสย. ได้รับเชิญจากธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี (Asian Development Bank) และคณะกรรมการโครงการพัฒนาเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (The Greater Mekong Sub-region - GMS) ให้ร่วมเป็นเจ้าภาพการให้ความรู้ในการประชุมเชิงปฎิบัติการเรื่อง Credit Guarantee System for SMEs to Promote Green Technology and Climate Friendly Agriculture และร่วมทำเวิร์คชอป"การค้ำประกันสินเชื่อ" กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในกลุ่มประเทศ CLMV (ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม) เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community - AEC) โดยให้บสย.เป็นหน่วยงานรัฐด้านการค้ำประกัน ทำหน้าที่ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องนี้ให้กับกลุ่มประเทศเหล่านี้ 
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ผู้แทนจากกลุ่ม CLMV ประมาณ 20 คนซึ่งเป็นผู้บริหารระดับนโยบายจากธนาคารกลาง และกระทรวงการคลังประกอบของทั้ง 4 ประเทศ รวมทั้งสถาบันค้ำประกันสินเชื่อของสาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คชอป พบกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยที่ได้ใช้บริการของ บสย.มารับฟังประสบการณ์ด้านการค้ำประกันสินเชื่อที่สำนักงานใหญ่ บสย.
"เอดีบีและจีเอ็มเอส  ให้ความสำคัญในโมเดลค้ำประกัน และการสนับสนุนสินเชื่อให้กับกลุ่มธุรกิจและเทคโนโลยีสีเขียว โดยบสย.รับหน้าที่ทำเวิร์คชอป ถ่ายทอดโมเดลค้ำประกัน และประสบการณ์ที่ทำมา 24 ปี  รวมถึงแนวคิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ค้ำประกันสำหรับสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้กับตัวแทนทั้ง 4 ประเทศเพื่อนำไปเป็นต้นแบบในการดำเนินการด้านการค้ำประกันต่อไป" นายวิเชษฐ์กล่าว 
นอกจากนี้ ตัวแทนสถาบันการเงินจาก สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งเดินทางมาดูงานเกี่ยวกับระบบธนาคาร การให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตามคำเชิญของสมาคมธนาคารไทย ก็ได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินกิจการและร่วมทำเวิร์คชอป ร่วมกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการค้ำประกันของ บสย.  การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจะส่งผลดีต่อการขยายการค้า การลงทุนให้กับเอสเอ็มอี ไม่เพียงแต่ในกลุ่ม CLMV แต่ยังรวมถึงกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆที่เรียกว่า In-land countries ซึ่งประกอบด้วย พม่า ไทย ลาว เขมร จีน เวียดนาม มาเลเซีย อีกด้วย
นายวิเชษฐ์กล่าวด้วยว่า เมื่อเปิดเออีซี ธุรกิจและการค้าขายในระดับภูมิภาคก็จะเปลี่ยนถ่ายโมเดลธุรกิจใหม่สู่การค้าแบบ Cross-trading ซึ่งจะเอื้อประโยชน์ต่อการส่งเสริมการค้าขายระหว่างกันมากขึ้น และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ บสย.ที่จะเข้าไปช่วยส่งเสริมและเป็นต้นแบบให้กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านดำเนินการ ที่จะเอื้อต่อผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนยังประเทศนั้นๆให้สามารถกู้เงินได้ โดยมี บสย.ค้ำประกัน