เนปาลเสนอจีนเชื่อมรถไฟ ชิงไห่-ทิเบตกับเนปาล
รองประธานาธิบดีเนปาลเอ่ยปากกับรัฐบาลจีน ด้านความร่วมมือรถไฟส่วนต่อขยาย จากชิงไห่สู่ทิเบต เข้าสู่พรมแดนประเทศเนปาลทางตอนเหนือ เพื่อตอบโจทย์โครงข่ายการคมนาคมทางรถไฟ เชื่อมภูมิภาคอาเซียนและเอเชียกลางสู่เอเชียใต้
การเสนอของรองประธานาธิบดี ปาร์มานันดา จาห์ ของเนปาลครั้งนี้ เกิดขึ้นในที่ประชุมกับเลขาพรรคคอมมิวนิสต์ของคณะกรรมการปกครองตนเองทิเบต ณ เมืองเอก ลาซา โดยโครงการรถไฟสายชิงไห่-ทิเบต ที่จะเชื่อมเข้าสู่พรมแดนของประเทศเนปาลนี้จะทำให้เกิดการต่อยอดพัฒนาด้านสังคมและเศรษฐกิจของเนปาลบริเวณชายขอบของประเทศได้
รองผู้นำเนปาลกับเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ได้ประชุมหารือกันในหลายประเด็นที่เกี่ยวโยงไปถึงการคมนาคมโครงข่ายใหญ่ที่เชื่อมแผ่นดินเอเชียเกือบจะทั้งหมดเข้าไว้ด้วยกัน โดยมีทางรถไฟชิงไห่-ทิเบต เป็นตัวเชื่อมจากจีนตอนกลางที่ต่อเนื่องมาจากโครงข่ายรถไฟของประเทศอาเซียน ซึ่งมีพรมแดนติดต่อกับจีนอย่างเมียนมาร์ ไทย ลาว และเวียดนาม โครงข่ายทั้งหมดจะถูกเชื่อมต่อไปยังเนปาล ซึ่งรองประธานาธิบดีจาห์บอกว่า ประเทศเนปาลสนับสนุนนโยบาย "china one policy" เพื่อส่งเสริมความเป็นอันหนึ่งอันเดียวของจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่สำคัญของเนปาล และเพื่อไม่ให้มีการก่อกบฏต่อต้านรัฐบาลจีนที่อาจรุกล้ำมายังพรมแดนเนปาลนั่นเอง
รถไฟสายชิงไห่-ทิเบต หรือ ชิงซั่งเถื่อยลู่ เป็นเส้นทางรถไฟยาวกว่า 1900 กิโลเมตร บนที่ราบสูงที่สูงและยาวที่สุดของโลก ทดลองใช้จริงเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 เริ่มต้นเดินทางจากเมืองซีหนิง เมืองเอกของมณฑลชิงไห่ ถึงปลายทางเมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบต ใช้เวลาเดินทาง 26 ชั่วโมง 23 นาที บนเส้นทางมีสถานีรถไฟสูงที่สุดในโลกคือ ถังกู่ลา-ซาน จุดสูงสุดของทางรถไฟสายนี้ โดยสูงจากระดับน้ำทะเล 5,072 เมตร
เส้นทางรถไฟช่วงนี้ มีความยากลำบากในการสร้างอย่างมาก เพราะนอกจากจะต้องวางรางผ่านพื้นที่หนาวเย็น และสูงจากระดับน้ำทะเลมาก ทำให้ออกซิเจนในอากาศมีน้อยกว่าปกติ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของมนุษย์และเครื่องจักรแล้ว ระยะทางมากกว่า 500 กิโลเมตร ยังเป็นพื้นที่ที่เป็นดินน้ำแข็งตลอดปี ทำให้ผิวดินไม่เสถียร เพราะดินน้ำแข็งชั้นบนจะละลายเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นในฤดูร้อน ชั้นดินจะอ่อนเหลวเป็นโคลน ส่งผลให้รางรถไฟโก่งงอเป็นลูกคลื่น
รถไฟสายชิงไห่-ทิเบต ยังเป็นเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกด้วยเพราะวิ่งผ่านจุดกำเนิดแม่น้ำสายสำคัญของโลกถึง 5 สายคือ แม่น้ำฮวงโหและแยงซีเกียงของจีน แม่น้ำโขง สาละวิน และพรหมบุตร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นต้นธารอารยธรรมสำคัญของโลก คืออารยธรรมจีนและอินเดีย รองลงมาคืออารยธรรมมอญ ขอม ล้านช้าง และไทใหญ่