สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติจัดประชุมพิเศษว่าด้วยการระบาดของอีโบลาที่นครนิวยอร์กของสหรัฐเมื่อวาน โดยมีเหล่าผู้นำทั่วโลกเข้าร่วมรับฟังคำเตือนถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ระบาดและคำร้องขอความช่วยเหลือจากชาติที่มีการระบาดโดย ปธน.เอิร์นเนสต์ ไบ โคโรมาของเซียร์รา ลีโอน บอกต่อที่ประชุมว่าไวรัสอีโบลาร้ายแรงกว่าการก่อการร้าย
ประธานาธิบดีบารัก โอบามาของสหรัฐเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ เอกชนและองค์กรระหว่างประเทศร่วมมือกันเพื่อเพิ่มความช่วยเหลือในการยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะในแอฟริกาตะวันตก และเตือนว่าความช่วยเหลือเท่าที่ผ่านมายังไม่เพียงพอ และเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเตือนจำเป็นต้องเพิ่มความช่วยเหลืออีก 20 เท่า จึงจะพอหยุดยั้งการระบาดได้
ก่อนหน้านี้ยูเอ็นประเมินว่าอาจต้องใช้เงินมากถึงเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อยับยั้งการระบาด และหลายประเทศทยอยประกาศในที่ประชุมเรื่องเงินช่วยเหลือ เช่น แคนาดาจะสมทบ 27 ล้านดอลลาร์ ฝรั่งเศส 70 ล้านยูโร และสหภาพยุโรปจะเพิ่มอีก 30 ล้านยูโรรวมเป็น 180 ล้านยูโร
ขณะที่กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนเตือนว่า วันนี้อีโบลากำลังเป็นฝ่ายชนะ และความช่วยเหลือที่สัญญาไว้ยังไปไม่ถึงพื้นที่ก่อนหน้านี้ก็มีเสียงวิจารณ์จากองค์กรบรรเทาทุกข์นานาชาติว่ายูเอ็นไม่ได้ทำงานด้วยความรวดเร็วเพียงพอในการจัดส่งทรัพยากรและความช่วยเหลือไปยังประเทศที่มีการระบาด
ขณะนี้ระบบสาธารณสุขของทั้งไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และกินี ไม่สามารถรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตมากได้ยังขาดแคลนทั้งแพทย์ พยาบาล เวชภัณฑ์และสิ่งของจำเป็นต่างๆ
ล่าสุดคณะทำงานบรรเทาเหตุฉุกเฉินอีโบลาของยูเอ็นที่ตั้งขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว จะจัดส่งชุดป้องกันการติดเชื้อ 2 ล้านชุดรถบรรทุก 470 คัน เฮลิคอปเตอร์ 18 ลำ และเครื่องบินไปให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ระบาด
นอกจากนี้รัฐมนตรีต่างประเทศในกลุ่มอุตสาหกรรมชั้นนำหรือ จี-7 ให้คำมั่นว่าจะเปิดให้มีการขนส่งทั้งทางอากาศและทางทะเลกับประเทศที่มีการระบาดของอีโบลาเพื่อให้สามารถจัดส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นไปถึงประเทศเหล่านั้นได้หลังจากที่ผ่านมามีหลายสายการบินระงับเที่ยวบินประเทศที่มีการระบาด
ขณะที่องค์การอนามัยโลกแถลง ยอดผู้เสียชีวิตจากอีโบลาเพิ่มเป็น 2,917 คน จากผู้ติดเชื้อทั้งหมด 6,263 คน และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ ประเมินอย่างเลวร้ายที่สุด ผู้ติดเชื้อในไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน อาจพุ่งเป็น 1 ล้าน4 แสนคน ภายในเดือนมกราคม