ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านพร้อมรับ อาร์เซนอล

เกมนี้ ดอร์ทมุนด์ กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจ เมื่อชนะในเกมลีกมา 2 นัดรวด ทั้งที่ผู้เล่นตัวหลักเจ็บหลายคนรวมถึง มัทส์ ฮุมเมลส์ ที่ยังไม่เรียกสภาพความฟิตกลับมาได้ไม่เต็มที คาดว่า เจอร์เกน คลอปป์ เทรนเนอร์ดอร์ทมุนด์ จะยังใช้ผู้เล่นชุดเดิมที่เพิ่งเอาชนะ ไฟร์บวร์ก 3-1 ในระบบ 4-2-3-1 โดยมี อาเดรียน รามอส ยืนหัวหอกเดี่ยวขณะที่ อาร์เซนอล ที่ต้องลงเล่นมาตั้งแต่รอบเพลย์ออฟ มีผลงานไม่ค่อยดีนักในลีกของตัวเอง เมื่อเสมอมา 3 เกมรวด โดยล่าสุด ต้องเสมอ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี 2-2 ซึ่งถือเป็นเกมหนักอาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีม ต้องขาดผู้เล่นชุดใหญ่ที่เจ็บยาว ได้แก่ โอลิวิเยร์ ชิรูด์, ธีโอ วัลค็อตต์ และ แซร์ช นาบรี รวมถึง มาติเยอ เดอบูชี แบ็กขวา ที่เพิ่งบาดเจ็บข้อเท้าและติดโทษห้ามแข่งจากใบแดงในเกมเพลย์ออฟ กับ เบซิคตัส ดังนั้นเกมนี้ อาร์เซนอล จะยังคงยึดระบบการเล่น 4-1-4-1 เช่นเดิม โดยกองหน้าจะฝากความหวังไว้ที่ แดนนี เวลเบ็ค
ส่วนคู่รอง จะอยู่ที่กลุ่ม ดี เมื่อ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล รองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ ลูโดโกเรตส์ ราซการ์ด แชมป์ลีกบัลแกเรีย ที่เพิ่งผ่านเข้ามาเล่นรอบแบ่งกลุ่ม เป็นครั้งแรก ในเวลา 01.45 น.เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เพิ่งนำลูกทีมพ่าย แอสตัน วิลลา 0-1 คาบ้านตัวเองในเกมลีก จึงจำเป็นต้องเรียกความมั่นใจกลับมาให้ได้ โดยมีข่าวดีคือ ราฮีม สเตอร์ลิง ปีกดาวรุ่งวัย 19 ปี จะได้กลับมาเป็นตัวจริง หลังจากได้พักเป็นตัวสำรองในนัดที่แล้ว คาดว่าเกมนี้ หงส์แดงจะใช้ระบบการเล่น 4-2-3-1 โดยให้ มาริโอ บาโลเตลลี ยืนเป็นหัวหอกเดี่ยวต่อไปขณะที่ ลูโดโกเร็ตส์ ผ่านมาเข้ารอบแบ่งกลุ่ม มาได้ด้วยการเพลย์ออฟชนะดวลจุดโทษ สเตอัว บูคาเรสต์ แห่งโรมาเนีย เกมนี้จะไม่มี วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ ผู้รักษประตูมือ 1 ที่ต้นโทษใบแดง ซ้ำร้าย อิวาน ซโวโรวิช มือ 2 ก็เจ็บไหล่ จึงต้องใช้ มิลาน บอร์ยาน มือ 3 ชาวแคนาเดียน ส่วนระบบการเล่นน่าจะเป็น 4-3-3 ตำแหน่งกองหน้า 3 คน ประกอบด้วย มิฮาอิล อเล็กซานดรอฟ, โรมัน เบซยัค และ เวอร์กิล มิซิดยาน ขณะที่ ยูเนส ฮัมซา จะคอยเป็น "ซูเปอร์ซับ"