จาเมก้า ยังหาซากเครื่องบินตกไม่เจอ

เครื่องบินเล็ก โซกาต้า ทีบีเอ็ม 700 ขนาด 7 ที่นั่ง ที่มีนักบิน 1 คนพร้อมผู้โดยสาร 2 คนได้แก่ นายแลร์รี่ เกลเซอร์ นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และนางเจน ภรรยา ชาวอเมริกันประสบเหตุตกนอกชายฝั่งจาเมก้าเมื่อวันศุกร์ขณะเดินทางออกจากเมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ไปยังเมืองเนเปิลส์ รัฐฟลอริด้า
เดิมจากภาพถ่ายทางอากาศที่ทีมค้นหากู้ภัยของกองทัพจาเมก้าสามารถบันทึกไว้ได้เมื่อเย็นวันศุกร์บ่งชี้ว่า พบชิ้นส่วนที่เชื่อว่าจะเป็นของเครื่องบินลำนี้ลอยอยู่ห่างจากเมืองพอร์ต อันโตนิโอ้ 38 กม.ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจาเมก้า แต่เมื่อวันเสาร์ผู้บัญชาการยามฝั่งแถลงว่าได้ส่งเรือออกค้นหาในบริเวณจุดที่พบชิ้นส่วน ซึ่งอยู่ในบริเวณกับที่พบรอยคราบน้ำมัน แต่กลับไม่เห็นชิ้นส่วนอะไร ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจมลงใต้ทะเลแล้ว
ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนจาเมก้า ระบุว่า จุดที่เชื่อว่าเครื่องบินเล็กผลิตโดยฝรั่งเศสตกมีความลึก 2,000 เมตร และทางการฝรั่งเศสเสนอให้ความช่วยเหลือในการกู้ซากเครื่องบินขึ้นจากใต้ทะเลหากพบซากเครื่องบินแล้ว 
รายงานระบุว่า จากการสื่อสารทางวิทยุพบว่านักบินพยายามแจ้งปัญหาขัดข้องและได้ติดต่อเพื่อขอบินในระดับต่ำลงเป็นที่ระดับ 18,000 ฟุต แต่หอบังคับการบินขอให้บินในระดับ 25,000 ฟุต และนักบินย้ำยืนยันว่าต้องบินต่ำลง จนสุดท้ายหอบังคับการบินอนุญาตให้บินที่ระดบ 20,000 ฟุต  แต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมาเครื่องบินก็ขาดการติดต่อไป 
นักบินของเครื่องบินรบของสหรัฐ 2 ลำได้บินออกค้นหาเครื่องบินที่หายไป และตามไปจนเข้าใกล้น่านฟ้าของคิวบา ก่อนเห็นเครื่องบินตกลงในมหาสมุทรแอตแลนติกห่างจากเมืองพอร์ต อันโตนิโอ้ 22 กม.จากบทสนทนาระหว่างนักบินเอฟ-16 ในขณะนั้น นักบินคนหนึ่งคาดว่า นักบินของเครื่องบินเล็กอาจหมดสติเพราะอากาศไม่พอหายใจ 
ก่อนหน้านี้เมื่อ 30 ส.ค.เพิ่เงกิดเหตุเครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งขาดการติดต่อไประหว่างการบิน และพบว่านักบินหมดสติ ทำให้เครื่องบินรุกล้ำเข้าไปในเขตห้ามบินเหนือกรุงวอชิงตัน และเครื่องบินรบได้บินตามจนเครื่องบินเล็กน้ำมันเชื้อเพลิงหมดและตกลงสู่ทะเล 
ที่ผ่านมาบางครั้งนักบินอาจหมดสติจากอาการหัวใจวายหรือเส้นเลือดในสมองอุดตัน แต่ส่วนใหญ่เกิดจากความดันอากาศในห้องนักบินไม่เพียงพอ