บุกเดี่ยวจี้ธนาคารออมสิน ย่านหัวลำโพง เชิดเงินไป 2.5 แสน

หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รองผบช.น. พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รองผบก.น.6 พ.ต.อ.อุทาสิน ฤทธิ์เรืองเดช รองผบก.น.6 พ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รองผกก.สส.พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบที่เกิดเหตุที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนพระราม4 ใกล้แยกมหานคร ภายในธนาคาร มีพนักงานและลูกค้าหน้าตาตื่นตกใจ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ทุกมุม ใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาทีเท่านั้น โดยคนร้ายสวมหมวกกันน็อกครึ่งใบสีเขียว ใส่เสื้อกันหนาวสีดำ กางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าสีเข้มและสวมถุงมือ ขี่จยย.ยี่ห้อคาวาซากิสีเข้ม รุ่นเคอาร์ 150 ซีซี ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ถังน้ำมันมีกระเป๋าสัมภาระสีเขียววางอยู่ โดยคนร้ายขี่มาจอดจ่อหน้าประตูธนาคารแล้วเข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์แล้วรีบหลบหนี มุ่งหน้าถนนพระราม 6 เจ้าหน้าที่จึงวิทยุแจ้งสายตรวจให้สกัดจับ แต่ไม่พบวี่แววของคนร้ายแต่อย่างใดสอบสวนนายธาดา ดีและ อายุ 52 ปี รปภ.ของธนาคารให้การว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุตนเห็นคนร้ายขี่รถขึ้นทางเท้ามาจอดหน้าธนาคาร ตนเห็นท่าไม่ดีจึงพยายามล็อกประตูธนาคาร แต่คนร้ายดึงประตู ตนจึงยื้อยุดประตูกับคนร้าย แต่สู้แรงไม่ไหว ประตูจึงเปิดออก คนร้ายควักปืนออกมาขู่ตน พร้อมพูดว่า อยู่เฉย ๆ ก่อนจะกระโดดข้ามเคาน์เตอร์โดยที่มือยังถือปืนขู่ และกวาดเงินสดในลิ้นชักทั้งหมด ยัดใส่เสื้อกันหนาว แล้วปีนข้ามหลบหนีก่อนจะออกจากธนาคารไปสตาร์ทรถขี่หนีไปอย่างรวดเร็วด้านน.ส.พรทิพย์ อินทะรังศิโรภาส อายุ 55 ปี ผช.ผจก.ธนาคารกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุมีพนักงานทำงาน 3 คน เมื่อคนร้ายเข้ามา ทุกคนรีบหลบลงใต้เคาน์เตอร์ ตนบอกให้พนักงานที่อยู่นอกเคาน์เตอร์รีบไปล็อกประตูเซฟของธนาคาร ซึ่งก็ไปล็อกประตูได้ทัน คนร้ายใช้เวลาไม่นาน เปิดลิ้นชักทั้ง 3 แต่มีเงินสดอยู่เพียง 2 ลิ้นชัก อีกลิ้นชักเป็นเอกสาร คนร้ายใช้เวลากับการดึงลิ้นชักพอสมควรแต่ก็สามารถเปิดออกแล้วกวาดเงินสดไปได้ โดยเงินทั้งหมดเป็นแบงค์ย่อย เงินฝากและเงินสำหรับไว้ใช้ทอนลูกค้า โดยธนาคารไม่เก็บเงินสดไว้มาก เมื่อคนร้ายหลบหนี พนักงานจึงกดสัญญาณเตือนภัยที่อยู่ใกล้เคาน์เตอร์เพื่อแจ้งตำรวจทันที เบื้องต้นพบว่าคนร้ายกวาดเงินสดไปทั้งหมด 257,000 บาททั้งนี้ ระหว่างที่คนร้ายกำลังก่อเหตุ มีลูกค้าเพิ่งถอนเงินสดไป 425,000 บาท อยู่ในซอง และอยู่ในช่วงเวลาก่อเหตุพอดี โชคดีที่คนร้ายไม่ทันสังเกตเห็น เพราะมุ่งเป้าไปที่เคาน์เตอร์ธนาคารเพียงอย่างเดียว ไม่อย่างนั้นอาจจะได้เงินสดไปมากกว่านี้ด้านพ.ต.อ.ฤชากร  กล่าวว่า คนร้ายลงมือก่อเหตุเพียงคนเดียว โดยใช้อาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก โดยใช้เวลาก่อเหตุเพียง 1 นาทีเท่านั้น คาดว่าน่าจะมาดูลาดเลาที่ธนาคารก่อนวันเกิดเหตุ และวางแผนมาเป็นอย่างดี เพราะตรวจสอบแล้วพบว่า คนร้ายค่อนข้างใจเย็น โดยใช้รถจยย.สีเข้ม "ตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบทะเบียนรถจยย.ให้แน่ชัด และคาดว่า 1-2วันนี้น่าจะออกภาพสเก็ตช์ได้ เพราะกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายได้ครบทุกมุม โดยหลังก่อเหตุ คนร้ายขี่จยย.ไปตามทางเท้าเลี้ยวเข้าซอยเกาะพระยาสุนทรใกล้กับธนาคารมุ่งหน้าออกถนนพระราม 6 หลบหนีไป โดยขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานเพื่อไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป"