บัตรประจำตัวของผู้เสียหาย 5 ใบ เสื้อผ้าชุดกีฬาที่ใช้ก่อเหตุ 2 ชุด หมวกนิรภัย 2 ใบ รถ จยย.ฮอนด้า รุ่นคลิ๊ก สีขาวแดง ทะเบียน อปอ 32 กรุงเทพมหานคร ถูกแจ้งหายไว้ที่ สน.ลุมพินี และ รถ จยย.ยามาฮ่า รุ่นนูโว สีน้ำเงิน ทะเบียน 2กด-9955 กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมตัวได้ขณะกำลังวางแผนก่อเหตุลักทรัพย์ผู้เสียหายที่เดินทางมาวิ่งออกกำลังกายในอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม.ก่อนนำตัวไปขยายผลตรวจค้นของกลางที่บ้านพักของผู้ต้องหาย่านบางกะปิ
พ.ต.อ.สุรเดช กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจากทางฝ่ายสืบสวน สน.บุปผาราม ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายหลายรายที่มาวิ่งออกกำลังกายในอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน ว่า ถูกคนร้ายล้วงเอาทรัพย์สินประเภทโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน และบัตรประจำตัว ซึ่งเก็บเอาไว้ใต้เบาะรถ จยย.ไป หลังรับแจ้งจึงทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบภาพ นายพรชัย ผู้ต้องหารายนี้
ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการพิมพ์โฉนดที่ดิน ของสำนักงานที่ดินสาขาปากเกร็ด แต่งกายชุดกีฬา สลับใช้ รถ จยย. 2 คันเป็นยานพาหนะ เข้ามาทำทีจะวิ่งออกกำลังกาย แต่พอสบโอกาสก็จะใช้เสื้อคลุม คลุมเบาะรถของเหยื่อเอาไว้ แล้วงัดตัวล็อคเบาะเพื่อเอามือล้วงเข้าไปลักทรัพย์ โดย นายพรชัย เข้ามาก่อเหตุในบริเวณนี้มาแล้วหลายครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.วันที่ 22 ส.ค.เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บุปผาราม จึงวางแผนแต่งชุดออกกำลังกายไปดักซุ่มดูพฤติกรรมของ นายพรชัย กระทั่งปรากฏตัวแล้วถูกจับกุมเอาไว้ได้ในที่สุด
จากการสอบสวน นายพรชัย ให้การยอมรับว่า เคยรับราชการระดับซี 4 สังกัดกรมที่ดินจริง แต่ถูกไล่ออกจากงานเพราะโดนคดีลักทรัพย์ จึงวางแผนทำทีเป็นคนรักสุขภาพแต่งกายด้วยชุดกีฬาขับขี่ รถ จยย.ไปตามสวนสาธารณะ อาทิ สวนหลังสถานีรถไฟจิตรลดา สวนใต้สะพานกรุงเทพ สวน รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า สวนเบญจศิริ สวนรมณีนาถ สนามกีฬารัชมังคลาหัวหมาก ฯลฯ
เพื่อซุ่มดูเหยื่อที่เก็บโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงินไว้ใต้เบาะจากนั้นจะรอจังหวะใช้มือล้วงเข้าไปเอาทรัพย์สินใต้เบาะ หากได้โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ๆ ก็จะนำไปขายให้ร้านรับซื้อที่ตลาดปัฐวิกรณ์ โดยตนอ้างว่าเป็นมือถือที่รับจำนำมาเองจากในบ่อน หาเงินไปจ่ายค่าพนันบอล ส่วนมือถือรุ่นเก่าขายไม่ได้ราคาก็เก็บเอาไว้ มีบ้างเหมือนกันที่เจอเด็กๆ วัยรุ่นพากันมาวิ่งหรือเล่นฟุตบอลก็จะทำทีเข้าไปตีสนิทขอเล่นด้วยพอเหยื่อเผลอก็ลักทรัพย์สินหลบหนีออกมา แม้จะก่อเหตุมานับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยคิดทำร้ายเหยื่อเลยแม้แต่รายเดียว
ขณะที่ พ.ต.ท.ปราโมทย์ กล่าวว่า นอกจากลักทรัพย์ผู้เสียหายไปขายเพื่อแลกเงินแล้ว นายพรชัย ยังมักนำบัตรเอทีเอ็ม.ของผู้เสียหายไปกดตามตู้ โดยคาดเดารหัสผ่านจากตัวเลขในบัตรประชาชน ที่ผ่านมามีนักศึกษาตกเป็นเหยื่อถูกลักทรัพย์มือถือ กระเป๋าเงิน และโดนกดเงินจากบัตรเอทีเอ็มไป 8,000 บาท หนำซ้ำ นายพรชัย ยังมักเก็บใบอนุญาตขับขี่ของเหยื่อที่มีรูปร่างหน้าตาละม้ายกับตัวเองเอาไว้ด้วย
เพื่อเอาไว้แสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนขับขี่รถ จยย.ผ่านด่านตรวจ จากการตรวจสอบข้อมูลประวัติยังพบว่า นายพรชัย ถูกออกหมายจับคดีลักทรัพย์ จำนวน 4 คดี ในท้องที่ สน.สำเหร่ สน.หัวหมาก สน.มักกะสัน และ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หากผู้เสียหายรายใดสงสัยเคยถูก นายพรชัย ลักทรัพย์ในสวนสาธารณะขอให้เดินทางมาดูตัวและของกลางได้ที่ สน.บุปผาราม