เหยื่อชนแล้วตบทรัพย์ เข้าแจ้งความเพิ่ม

ความเคลื่อนไหวในชุมชน ต.แสนชาติ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด    ล่าสุด รถที่เคยใช้ก่อเหตุกว่า 20 คัน ไม่กลับเข้ามาอีกแล้ว      เจ้าหน้าที่คาดว่า  รถที่ก่อเหตุ อาจถูกนำไปขาย  เพื่อให้ยากต่อการติดตาม    ขณะที่ยังมีผู้เสียหาย พร้อมญาติ เข้าพบกับตำรวจชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหาร   เพื่อขอดูแฟ้มประวัติ  ของกลุ่มผู้ที่เคยก่อเหตุ   ขับรถชนแล้วตบทรัพย์     เพื่อเปรียบเทียบกับตำหนิรูปพรรณบุคคล    หลังเคยประสบเหตุ ขณะขับรถเดินทางกลับบ้าน     เมื่อเทียบทะเบียนประวัติของบุคคลทั้ง 44 คน  ปรากฎว่ามีรูปพรรณใกล้เคียงกัน 1 ราย  อยู่ในตำบลแสนชาติ อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด   เจ้าหน้าที่จะได้ติดตามตัวมาตรวจสอบและดำเนินการ    ต่อไป  
ด้านรองผู้กำกับสืบสวน สภ.จังหาร พ.ต.ท.อานนท์ โยธะการี  เปิดเผยว่า  ได้รับการประสานงานจากสถานีตำรวจภูธรหนองเรือ  จังหวัดขอนแก่น   ให้ทำการตรวจสอบรายชื่อผู้ต้องสงสัย  ชนแล้วตบทรัพย์ จำนวน 2  ราย  ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านบึงโดน ตำบลแสนชาติ อำเภอจังหาร   ที่ก่อเหตุในพื้นที่ เพื่อประกอบคดี   และอีก 1 คดี  ได้รับหนังสือจากนายอำเภอจังหาร  เมื่อครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนบ้านหินเทิน จังหวัดปราจีนบุรี ส่งถึงสถานีตำรวจภูธรจังหาร   โดยเนื้อหาข้อความมีว่า   เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2556   ตนเองและเพื่อนครูไ ด้ขับรถยนต์ไปทำธุระในอำเภอกบินทร์บุรี   ระหว่างนั้นได้มีแก๊งชนแล้วตบทรัพย์  ขับตามประกบหน้าหลัง  ตนจึงตีไฟเลี้ยวเพื่อแซง  แต่รถเก๋งอีกคันกลับเร่งเครื่องไม่ให้แซง  จนมีการเฉี่ยวชนกันขึ้น   รถทั้งสองคันลงมาเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้น  หนึ่งหมื่นบาท  แต่ต่อรองไปมาลดเหลือให้ 7,000 บาท   ด้วยกลัวเสียเวลาจึงยอมจ่าย  เหตุการณืนั้น เขาใช้กล้องถ่ายบัตรประชาชนไว้เป็นหลักฐานด้วย   จนมีข่าวเผยแพร่ทางสื่อ เชื่อว่าน่าจะเป็นกระบวนการเดียวกัน   เมื่อตรวจสอบหลักฐาน    ถึงรู้ว่าเป็นบัตรของนายธนภัทร  แน่นอุดร ชาวบ้านบึงโดน หมู่ 9 ตำบลแสนชาติ   อำเภอจังหาร   จึงได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกบินทร์บุรี
ขณะที่ภายในชุมชน ตำบลแสนชาติ อำเภอจังหาร     ยังพบว่า    รถยนต์ที่มีอยู่ในหมู่บ้านจำนวนมาก   และมีกว่า  20 คัน ที่มีประวัติใช้ก่อเหตุ     ปัจจุบันได้หายเงียบไปอย่างผิดสังเกต   คาดว่าส่วนหนึ่ง อาจจะมีการนำไปขายตามเต้นท์รถ  เพื่อให้ยากต่อการสืบสวน