svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

หนุ่มใหญ่อดีตครูป่วยโรคจิต แค้นแม่บังเกิดเกล้าคว้ามีดแทงดับ

09 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม พ.ต.ต.สมเจตน์ พลเหลา พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุคนแทงกันเสียชีวิตภายในบ้านเลขที่ 301/554 หมู่บ้านกิตตินิเวศน์ ซอย 4 ซอยรามคำแหง 68 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.หัวหมาก เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์ นิติเวชฯ รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง


ที่เกิดเหตุเป็นเดี่ยวปลูกสร้างด้วยปูน สูง1ชั้น ติดริมถนน บริเวณด้านหน้าห้องรับแขก ใกล้ราวเหล็กสำหรับผู้พิการใช้ค้ำยัน พบศพ นางกัลยาณี วงศาสนธิ์ อายุ 80 ปี นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง สวมเสื้อเชิตแขนยาวสีขาว นุ่งกางเกงแสลคขายาวสีขาวเปื้อนเลือด ใส่ถุงเท้าสีขาว พบบาดแผลฉกรรจ์ที่หน้าผาก 1 แผล ด้านหลังศีรษะ 1 แผล และหน้าท้องมีรอยถูกแทงด้วยของมีคมอีก 1 แผล รวมทั้งหมด 3 แห่ง ตรวจสอบภายในร่างกายพบเอกสารบัตรประชาชนของผู้ตาย และเงินสดจำนวน 3,100 บาท นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบมีดเดินป่าด้ามไม้ ยาวประมาณ 1 ฟุต มีคราบเลือด สวมปลอกหนังสีดำวางอยู่บนโต๊ะ และยังพบบัตรรักษาตัวโรงพยาบาลประสาทวิทยา ภายในห้องนอน โดยมีนายวิชากร วงศาสนธิ์ อายุ 56 ปี ลูกชายผู้ตายซึ่งเป็นผู้ลงมือฆ่าแม่บังเกิดเกล้า ยืนตัวสั่นพูดจาพร่ำเพ้อ รอมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมควบคุมตัวไปสอบสวน ที่ สน.หัวหมาก ก่อนรีบนำศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรพลิกศพ ที่ สถาบันนิติเวชวิทยา

สอบสวน นายหน่อย เรนางกูร อายุ 54 ปี เพื่อนบ้านและเป็นผู้ดูแลนางกัลยาณี ให้การว่าผู้ตายอาศัยอยู่กับนายวิชากร ลูกชายเพียง 2 คน ภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยผู้ตายมีลูกทั้งหมด 5 คน นายวิชากรเป็นลูกคนที่ 3 อดีตเคยรับราชการครู โรงเรียนชั้นประถมศึกษา ที่จังหวัดกาฬสิน เมื่อ 10กว่า ปี ก่อน นายวิชากรมีอาการทางประสาทจนต้องออกจากราชการ มารักษาตัวที่ โรงพยาบาลศรีธัญญา โรงพยาบาลประสาทวิทยา และล่าสุดรักษาที่โรงพยาบาลเพชรเวช แต่ก็ยังไม่หายดี รวมทั้งมีอาการเรื่องสุขภาพแขนขาอ่อนแรง มือไม้สั่นตลอดเวลา ส่วนผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรค อาทิ โรคไต โรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคชรา ต้องทำการรักษาตัวทุกสัปดาห์ ซึ่งทุกวันนี้มี นางพรพนิดา ฉัตรวิริยะเจริญ อายุ 55 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ และเป็นลูกสาวของผู้ตาย มีอาชีพเป็นพนักงานโรงงานทาเล็บ ที่ย่านซอยลาดพร้าว 71 มักจะนำอาหารและเงินมามอบให้นางกัลยาณีทุกๆ วัน

ขณะที่ จากการสอบสวน นายวิชากร ให้การว่า แม่ของตนเคยทำร้ายร่างกายด้วยการหักข้อเท้า และข้อเข่าขวา จนตนเดินไม่ได้ หนำซ้ำชอบดุด่าทุบตีตนมาโดยตลอด ปัจจุบันแม่เดินไม่ได้เนื่องจากมีโรคโปลิโอ จนทำให้ตนรู้สึกเครียดและโกรธแค้น จึงนำมีดเล่มดังกล่าวมาเก็บไว้เพื่อป้องกันตัวเอง จากผู้เป็นแม่ และคนในละแวกใกล้เคียง เพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย โดยก่อนเกิดเหตุตนนั่งดูวอลเล่ย์บอลทีมชาติไทยกับผู้ตาย จนมีผลการแข่งขันออกมาทีมชาติไทยแพ้ ประกอบกับแม่พูดต่อว่าตน ทำให้รู้สึกแค้นจึงใช้อาวุธมีดที่เตรียมไว้ฟันผู้เป็นแม่จนเสียชีวิต ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าในช่วงนี้ใกล้จะถึงวันแม่แห่งชาติแล้วจะไหว้ใคร นายวิชากร กล่าวสั้นๆว่า ?ถึงจะเป็นวันแม่ก็ไม่สนแล้ว?

ด้าน พ.ต.ต.สมเจตน์ เจ้าของคดีเปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้สันนิษฐานว่า คนร้ายมีอาการทางประสาท จนลงมือก่อเหตุผู้เป็นแม่จนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะเรียกญาติและพยานแวดล้อม มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งรอผลทางนิติวิทยาศาสตร์เพื่อสรุปสาเหตุแรงจูงใจที่ทำให้เกิดการสังหารที่แท้จริง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ?ฆ่าบุพการี? แก่นายวิชากร ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

logoline