svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

จับหนุ่มตุ๋นเหยื่อ อ้างเป็นพนักงานประกัน หลอกเงินญาติคนตาย

06 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 6 สิงหาคม พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ ปานกลิ่นพุฒ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ร่วมกันจับกุมตัว นายสมชาย แซ่โค้ว อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/24 ม.8 ต.สวนดอกไม้ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดอ่างทอง ที่ จ133/2557 ลงวันที่ 29 พ.ค.2557 ในข้อหา "ฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น"โดยสามารถจับกุมได้ภายในหอ้งพัก มาดี อพาร์ทเม้นต์ ม.2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนหลายราย ว่ามีมิจฉาชีพมีพฤติกรรมหลอกลวงญาติผู้ที่เสียชีวิตให้โอนเงินเงินค่างวดประกันที่ขาดส่งหรือคำดำเนินการต่าง ๆ แล้วจะได้รับเงินประกันที่ผู้ตายได้ทำไว้ให้ญาติเป็นค่าตอบแทน ซึ่งทำให้มีผู้ที่หลงเชื่อและโอนเงินให้หลายราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1 ล้านบาท 
ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการสืบสวนจนทราบว่า คนร้ายคือ นายสมชาย ซึ่งเคยถูกเจ้าหน้าที่กองปรายปรามจับกุมเมื่อปี 2553 มาแล้ว นอกจากนี้ยังถูกออกหมายจับไว้ทั้งหมด 5 หมาย ได้แก่ ท้องที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี , สภ.ประตูน้ำจึฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี , สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี , สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร และ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ต่อมาเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ทางเจ้าหน้าที่ทราบว่านายสมชาย กบดาลอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้วางแผนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว
พ.ต.ท.ต่อศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทราบว่า เคยติดคุกเมื่อปี 2555 ในคดีฉ้อโกงทรัพย์ โดยครั้งนั้นคนร้ายได้มีพฤติกรรมแอบอ้างตามงานเลี้ยงต่าง ๆ ว่าเป็นเจ้าของโต๊ะจีน แล้วไปเรียกรับเงินจากเจ้าของงาน ก่อนที่จะหลบหนีไป แต่สุดท้ายก็มาถูกตำรวจกองปราบจับกุมได้ และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2556 แล้วกลับไปก่อเหตุลักษณะดังกล่าวอีก
ขณะที่  นายสมชาย รับสารภาพว่า เมื่อปี 2555  ติดคุกที่จังหวัดสระบุรี โดยระหว่างที่อยู่ในเรือนจำนั้นมีเพื่อนนักโทษได้สอนวิธีการหลอกลวงลักษณะดังกล่าวให้ หลังพ้นโทษออกมาจึงได้วางแผนก่อเหตุ โดยตนจะซื้อหนังสือพิมพ์มาอ่านทุกเช้าว่ามีคนตายที่ใดบาง ก่อนจะโทรศัพท์ไปหา 1133 (สายด่วนบริการหาเบอร์โทรศัพท์ ) เพื่อขอเบอร์ติดต่อ อบต. พื้นที่ของคนตาย 
จากนั้นจะติดต่อไปขอเบอร์โทรศัพท์ของญาติผู้ตาย โดยอ้างว่าเป็นพนักงานประกันชีวิต แล้วหลอกญาติผู้ตายว่า ผู้ตายได้ทำประกันชีวิตไว้ในวงเงิน 6 แสนบาท แต่ทางญาติต้องโอนเงินมาเป็นค่าดำเนินการก่อน 5,000 บาท หากเหยื่อหลงเชื่อก็จะให้โอนเงินเข้าบัญชี หลังจากนั้นตนก็จะปิดเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้ก่อเหตุทำให้ติดต่อไม่ได้
"ผมก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน มีรายได้ปีละประมาณ 1 ล้านบาท  เงินที่ได้มาก็จะนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ผมมักจะเลือกเหยื่อที่เป็นคนต่างจังหวัดเนื่องจากง่ายต่อการหลอกลวง" นายสมชาย กล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฉ้อโกงทรัพย์ผู้อื่น ก่อนที่จะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ที่ประสานขอรับตัวไปดำเนินดคี 

logoline