svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

นัดอำลาซูวอน -เรื่องเล่า...ตามติด ชีวิตนักตบ World Grand Prix

04 สิงหาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าการแพ้ชนะในเกม ก็คือการชนะใจคนดูและผู้ชม"


ปรีชาชาญ วิริยานุภาพพงศ์ บรรณาธิการข่าวกีฬา นสพ.เดอะเนชั่น ซึ่งเดินทางไปเกาะติดทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ชุดสู้ศึก World Grand Prix  2014 ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดในช่วงเช้าวันนี้ ผ่านทางเฟสบุ๊คของเขาว่า 
วันนี้ประโยคที่ผมได้ยินจากปากใครหลายต่อหลายคน รวมทั้งแฟนคลับจากเฟซบุ๊คด้วย คือคำว่า "เสียดายเซ็ตสอง" แหละบางคนก็แถมต่อท้ายด้วย "เซ็ตสามเราก็นำ" "น่าเสียดายจัง"....
ผ่านไปแล้วครับ ทุกอย่างมันจบไปแล้ว กับการแข่งขันในกลุ่มบี ประเทศเกาหลีใต้ เพราะยังไงตอนนี้ เราก็คว้าอันดับ 4 ในกลุ่มนี้แน่นอนแล้ว เปลี่ยนแปลงไม่ได้ด้วยครับ แต่สิ่งหนึ่งที่น่าภาคภูมิใจมากกว่านั้นคือการได้ทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่แล้ว ที่สำคัญการที่เราเป็นทีมเดียวในกลุ่มบีที่เอาชนะแชมป์กลุ่มอย่างเซอร์เบียได้ ลองคิดกลับกันแบบนี้จะทำให้เรารู้สึกว่านักตบสาวไทยเราก็เก่งไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน
สำหรับผมเอง ผมมองว่านอกจากการที่เราเป็นเพียงทีมเดียวที่สยบแชมป์กลุ่มบีอย่างเซอร์เบียลงได้แล้ว มันยังเป็นภารกิจที่ทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้อีกด้วย เพราะโค้ชอ๊อตเองก็บอกนักข่าวเอาไว้ในงานแถลงข่าวก่อนหน้านั้นว่าตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะเอาชนะอย่างน้อยหนึ่งทีมในแต่ละสนาม ซึ่งสนามแรก ณ Hwaseong Gymnasium ประเทศเกาหลีใต้ เราก็ทำได้ตามเป้าแล้ว น่าจะปรบมือให้กับโค้ชอ๊อตและนักตบลูกยางสาวทีมชาติไทยนะครับ
สิ่งที่มีคุณค่ามากกว่าการแพ้ชนะในเกม ก็คือการชนะใจคนดูและผู้ชม วันแรกที่เราแข่งกับเจ้าภาพเกาหลีใต้ คนไทยในเกาหลีมาเชียร์ตบยางสาวไทยกันนับร้อย ผมก็ถือว่ามากแล้ว เพราะนี่เราอยู่ต่างประเทศ ผมหยิกแขนตัวเองหลายครั้ง เพื่อให้ตื่นจากฝันว่านี่คือเกาหลีใต้จริงๆ ไม่ใช่ประเทศไทย แต่ทำไมกองเชียร์ไทยเยอะจัง
วันที่สอง กองเชียร์ไทยมาเพิ่มนับเป็นหลายร้อยคน และเราก็ชนะเซอร์เบีย ทีมอันดับ 7 โลกและเหรียญทองแดงปีที่แล้วด้วย และวันนี้เราก็แข่งขันกับเยอรมัน ผมเองไม่อยากเชื่อสายตาว่านี่คือเรากำลังแข่งอยู่ต่างประเทศ เพราะมันเสมือนเป็นยิมนิมิบุตรดีๆนี่เองที่คราคร่ำไปด้วยกองเชียร์ชาวไทยมากหน้าหลายตา 
เดินเข้ามาภายในสนาม ผมกวาดสายตามองไปรอบๆ โห คนไทยทั้งนั้นเลย โพกหัวด้วยผ้าลายธงชาติ เพ้นท์แก้ม โบกธงชาติ และสัญญลักษณ์อีกมากมายที่สื่อให้เห็นว่าผม/ฉันคือคนไทย มาเชียร์นักวอลเลย์บอลขวัญใจคนไทยของพวกเรา ผมตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก นี่ขนาดผมไม่ได้เป็นนักกีฬา และเป็นแค่ผู้สื่อข่าวประจำทีมเท่านั้นยังรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่คนไทยมาเชียร์มากมายก่ายกองในวันนี้ "น่าจะเกือบสองพันคน" กระมัง
ลองนึกถึงภาพทีคุณเข้ามาอยู่ในสนามกีฬาสักแห่ง มาเชียร์กีฬาที่คุณชอบ และนักกีฬาที่คุณรัก ในสนามที่ล้อมรอบไปด้วยคนที่มีความรู้สึกร่วมกัน และทำกิจกรรมที่ส่อให้เห็นถึงความรักชาติเต็มเปี่ยม ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเชียร์กระหึ่ม มันก้องดังอยู่ในหู แต่มันไปกระทบกับหัวใจส่วนลึก เสียงเชียร์สะท้อนให้เห็นซึ่งความรักชาติและความมีส่วนร่วม และพอเป็นแบบนี้ ผมก็ขนลุกเกรียวทุกครา และน้ำตาแห่งความสุขก็คลอเบ้าทุกครั้ง แม้ว่ามันจะไม่ได้รินไหลให้ใครได้เห็นก็ตาม
ตอนเสียงเชียร์ "ไทยแลนด์ ไทยแลนด์" และส่งเสียงดังลั่นขึ้นเรื่อย เมื่อตบยางสาวไทยทำคะแนนได้ ลองจินตนาการดูว่ามันน่าตื่นเต้นเร้าใจมากขนาดไหน ผมถึงได้บอกเสมอว่าผมกลัวเหลือเกิน กลัวจะมีใครบางคนหัวใจวาย อานุภาพของความรักชาติ มันช่างมากมายมหาศาลจริงๆ
ในเซ็ตแรก ทุกคนรู้ได้ว่าตบยางสาวไทยน่าจะเอาชนะได้ เพราะสาวไทยเรานำมาตลอด จนกระทั่งแต้มไทยมาหยุดกึกอยู่ที่ 12-9 แล้วปล่อยให้เยอรมันตบไปห้าแต้มรวด กระโดดนำไปอยู่ที่ 14-12 ทุกคนใจแป้ว ผมก็เหมือนกัน แต่ผมก็คิดว่าสาวไทยเราสร้างปาฎิหาริย์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วกับวันนี้ จะมีปาฎิหาริย์อีกสักครา จะเป็นไรไป
แต่คราวนี้ ปาฎิหาริย์ไม่มีจริงครับ เราพ่ายไป 21-25 เสียเซ็ตแรก ผมก็ภาวนาว่าอย่าให้สาวไทยใจเสียในเซ็ตที่สอง คราวนี้สาวไทยทำมาดี นำห่างไปถึง 8-2 ทำได้หกแต้มรวดทีเดียว โห ทำไมสาวไทยเก่งขนาดนี้ ผมนึกในใจ หัวใจกองเชียร์ทีมไทยเต้นไม่เป็นจังหวะ ผมเองก็สั่นไหว เพราะไม่คิดว่าเราจะนำคะแนนมาห่างขนาดนี้ แต่แล้วก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ที่ซัดถาโถมเข้าหาฝั่งครั้งเดียวแล้วค่อยๆสลายกลายเป็นลูกคลื่นขนาดเล็กที่หมดแรงจะตะกายเข้าหาฝั่งต่อไป
เยอรมันค่อยๆตามมาทีละแต้มจากที่ตามสาวไทยอยู่ 13-20 จนไล่มาทันที่ 22-22 และแซงเข้าป้ายเฉยเลย 25-22 แทบไม่เชื่อสายตา แต่มันก็เป็นไปแล้ว
ว่ากันว่าความหวังของคนเราไม่เคยจบสิ้น เช่นเดียวกันกับความฝันของสาวไทยที่จะเอาชัยในเซ็ตที่สามให้ได้ เซ็ตนี้มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายคน เอาน้องๆลงไปลองแก้เกมดู แต่ก็ไม่เป็นผล สาวไทยพ่ายอีกเซ็ต 21-25 และจบเกมด้วยสกอร์ 3-0 
แม้ตบยางสาวไทยจะพ่าย แต่เราก็ไม่ได้แพ้นะครับ เสียงเชียร์จากแฟนชาวไทยก็ไม่ได้เงียบลง แฟนนับร้อยคนทะลักลงมาที่พื้นสนามแข่งขัน กรูกันเข้ามาหยิบกล้อง หยิบมือถือมาจับภาพไปที่นักกีฬาที่กำลังยืดเส้นคลายกล้ามเนื้อกันอยู่ ช่วงที่ผมลงไปสัมภาษณ์นักกีฬาและโค้ชเสร็จแล้ว ผมต้องฝ่าฝูงชนไปเอาโน้ตบุ๊คที่วางอยู่บนโต๊ะเลยทีเดียว
และพอส่งข่าวเสร็จ ผมก็ออกไปนั่งรอในรถ เพราะทีมนักตบสาวไทยจะต้องเดินทางกลับโรงแรมทันที ซึ่งก็ไม่ได้ใกล้ๆสนามนะครับ ผมว่าน่าจะเกิน 50 กิโลเลยทีเดียว เพราะขนาดขึ้นทางด่วนก็ครึ่งชั่วโมงไปแล้ว
เชื่อหรือปล่าวครับว่าขนาดจะเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่นั้น ผมเองก็ต้องฝ่าฝูงชนนับสองสามร้อยคนเลยทีเดียว เพราะคนเหล่านี้ยืนดักรอที่จะจับมือ ถ่ายรูป ให้ของที่ระลึก ขอลายเซ็นจากนักกีฬาอยู่ทั้งนั้น บางคนขอขึ้นมาบนรถเพียงเพื่อจะเก็บภาพนักกีฬาเอาไว้ ผมอยากให้มาเห็นบรรยากาศแบบนี้จัง เขารักนักตบลูกยางสาวไทยมากมายขนาดนี้เชียวหรือ..ผมถามตัวเองในใจ
และคุณอาจจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ หากไม่ได้มาได้ยินเสียงแฟนชาวไทยเหล่านี้พูดอะไรบางอย่าง
"ขอผมถ่ายรูปพี่หน่องหน่อยนะครับ ผมไม่ได้กลับเมืองไทยมาสองปีแล้ว ผมขอแค่ถ่ายรูปเองครับ" 
"ขอขี้นไปบนรถหน่อยนะคะ หนูนั่งรถมาไกลเพื่อมาเชียร์ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอนักกีฬา ขอหนูหน่อยนะคะ"
"ขอร้องล่ะครับ ขอถ่ายรูปนักกีฬา แป๊บเดียวครับ"
"พี่หน่องมายังครับ อยู่บนรถป่าวครับ ผมขอถ่ายรูปหน่อยครับ"
"มาทำงานที่นี่นานหลายปี ยังไม่ได้กลับเมืองไทยเลย ขอถ่ายรูปนักกีฬาไว้เป็นที่ระลึกหน่อยครับ"
และเมื่อได้รับการปฎิเสธ คนที่มายืนอออยู่หน้ารถนักกีฬา ต่างก็ยื่นกล้องมือถือให้เอก ประวิตรและหลายๆคนในรถช่วยถ่าย
ภาพนักกีฬาให้กับพวกเขาแทน ผมเห็นภาพนี้แล้ว ผมตื้นตันใจมากๆ บรรยากาศมันพาไปครับ ทั้งเศร้าระคนสุข และทุกข์ระคนซึม และพอรถเริ่มเคลื่อนออกจากหน้าสนาม แฟนๆชาวไทยที่มาเชียร์ตบยางสาวไทยก็โบกมือโบกธงเป็นทิวแถว พวกเราในรถ โบกมืออำลาพวกเขาเช่นกัน emotional scene หรือฉากสะเทือนอารมณ์ยังคงมีต่อไป (ขอเช็ดน้ำตาเล็กๆแป๊บ)...ตอนรถเราจะเลี้ยวซ้ายจากหน้าสนามออกสู่ถนนใหญ่ มีแฟนกองเชียร์อีก 4-5 คนจอดรถรอรถของพวกเรา และนำเอาธงนชาติไทยผืนใหญ่มาโบกสะพัดอยู่หน้าถนน เสมือนจะร่ำลาส่งใจไปกับตบยางสาวไทย คนที่เหลือก็โบกมืออำลา ผมงี้ซึ้งใจตื้นตันใจจนบอกไม่ถูก ก็ไม่รู้นะครับว่าหากวันนี้เป็นนักตบลูกยางสาวไทยที่เป็นฝ่ายชนะ จะเกิดสงครามน้ำตามหาชนหรือปล่าว เพราะเท่าที่ได้ยินกับหู ได้เห็นกับตา ก็พาใจสั่น ด้วยความซาบซึ้งและตื้นตันใจสุดๆจริงๆ ผมถึงได้บอกว่าเราแพ้เกม แต่เราชนะใจ
จริงๆวันนี้ผมเตรียมเนื้อหาที่จะเล่าไว้หลายเรื่อง แต่พอมาเจอกับเรื่องที่ทำให้ตื้นตันใจมากขนาดนี้ ก็เลยเปลี่ยนใจมาเขียนเรื่องนี้แทน คงไม่ว่ากันนะครับ
สำหรับนักตบลูกยางสาวไทย พรุ่งนี้ (4 ส.ค.57)โค้ชอ๊อตนัดลงมาทานอาหารเช้าตอนหกโมงครึ่งและเช็คเอ้าท์ออกเดินทางไปสนามบินในเวลา 6.50น จะออกเดินทางไปยังฮ่องกงในเวลาประมาณ 10 โมงเศษและคาดว่าจะถึงฮ่องกงในเวลาประมาณบ่ายโมง สำหรับโรงแรมที่พักนักกีฬาคือ Harbour Plaza Metopolis ซึ่งอยู่ห่างจากสนามแข่งขันจริงคือ Hong Kong Coliseum แค่เดินไม่เกิน 500 เมตร

logoline