1 ปี คราบน้ำมัน ณ เสม็ด คุณคิดว่าเสม็ด สะเด็ดน้ำมันแล้วหรือยัง?

รายการ คมชัดลึก ทางสถานีข่าวเนชั่นทีวี เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (24 ก.ค.57) ได้นำเสนอรายการในตอน "ครบรอบ 1 ปี คราบน้ำมัน ณ เสม็ด" เปิดพื้นที่แสดงความคิดเห็นต่อ เหตุการณ์น้ำมันดิบ 5 หมื่นลิตร ไหลทะลักลงสู่ท้องทะเล ห่างจากฝั่งท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ราว 20 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 แต่การเยียวยา ชดเชย ยังไม่เรียบร้อย นายสำออย รัตนวิจิตร นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก ระยอง กล่าวว่า ก็จะมีการยื่นฟ้องในด้านสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เพราะหากสิ่งแวดล้อมกลับคืนมา ก็จะเป็นรายได้สูงสุดของชาวประมง หลังเกิดเหตุ ทำให้ชาวประมงมีรายได้ลดน้อยลงกว่าครึ่ง บางรายก็หันไปรับจ้างทำงานอื่นแทน เพราะออกเรือไปหาสัตว์น้ำทะเล ก็ประสบกับการขาดทุน ในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ค่าชดเชย ต้องเรียกร้องให้เยียวยาสิ่งแวดล้อมก่อนเป็นอันดับแรกนายวีรศักดิ์ คงณรงค์ รองนายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก ระยอง กล่าวว่า ขณะนี้สัตว์น้ำบางส่วนหายไป ส่งผลทำให้ชาวประมงบางรายต้องเลิกอาชีพกันไปเลย จากที่มีข่าวว่า สภาพสถานที่ท่องเที่ยวดีขึ้น น้ำทะเลดีขึ้น แต่ชีวิตจริงของชาวประมงไม่ได้ดีขึ้นตาม เพราะออกไปจับสัตว์น้ำแต่ไม่ได้สัตว์น้ำกลับเข้าฝั่งดร.อาภา หวังเกียรติ อาจารย์วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ ม.รังสิต กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุได้ไปลงพื้นที่ตลอด ทราบว่า อาหารทะเลตากแห้งที่วางขายในบริเวณนั้น ผู้ขายนำมาจากที่อื่น จากข้อมูลที่ได้รับ ทราบว่า การเก็บสารเคมีในทะเลเป็นไปได้น้อย เมื่อเทียบกับปริมาณการใช้สารเคมีเพื่อเก็บกู้คราบน้ำมันการเยียวยาในกลุ่มชาวประมง ทราบว่าบางส่วนยังไม่ได้รับค่าชดเชยรายได้ที่หายไป ขณะที่ค่าชดเชยเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ยังไม่มีการดำเนินการ ผศ.ดร.จรวย สุขแสงจันทร์ รองหัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ กล่าวว่า นักวิชาการจากหลายสถาบัน พบว่า มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ดังนั้นน่าจะเป็นผลกระทบทางด้านจิตใจมากกว่า ผลกระทบของสิ่งมีชีวิตในทะเล อย่างเช่น กลุ่มปลา หายไปจริง ในช่วงแรกที่เกิดเหตุ แต่หลังเกิดเหตุในระยะหนึ่งก็กลับมา