เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 23 กรกฎาคม 2557 พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมภู, พ.ต.อ.ธวัชชัย ถุงเป้า รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ศักดา เหมือนโพธิ์ พนักงานสอบสวนผู้เชี่ยวชาญ (สบ.5)ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.ท.ประพันธ์ ธุระกิจ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เพ็ญ จ.อุดรธานี พร้อมตำรวจสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี , ชุดสืบสวน ภ.4 , ชุดสืบสวน สภ.เพ็ญ และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.อุดรธานี ได้เข้าทำการตรวจสอบตู้เอทีเอ็ม ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ตั้งอยู่ในร้านอาหารไม่มีชื่อ เลขที่ 343 หมู่ 1 สามแยกบ้านสุมเส้า ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ ที่ถูกคนร้าย ใช้แก๊สหัวตัด เจาะตู้เอทีเอ็มจนพังเสียหาย โดยคนร้ายได้เงินในตู้เอทีเอ็มไปจำนวน 1.6 แสนบาท
โดยเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ต.ท.ประพันธ์ ธุระกิจ พนักงานสอบสวน ผู้ชำนาญการพิเศษ สภ.เพ็ญ รับแจ้งจาก นางทวินตรา ทรงคาศรี นายก อบต.สุมเส้า เจ้าของร้านอาหารว่า ตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารออมสิน ที่ทางธนาคารได้นำมาตั้งไว้ที่หน้าร้านอาหารถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้แก็สเจาะตัดกุญแจประตูที่เป็นห้องใส่ตู้เอทีเอ็ม เข้าไปตัดเจาะตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ตู้ พังเสียหาย โดยเฉพาะตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ถูกคนร้ายใช้แก็สเจาะตัดตัวตู้ ชิ้นส่วนด้านในออกมากองทิ้งหน้าตู้ คาดว่าจะได้เงินไปจำนวนหนึ่ง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และออกไปตรวจสอบ พร้อมตำรวจสืบสวน สภ.เพ็ญ
ที่เกิดเหตุเป็นร้านอาหารไม่มีชื่อ ติดถนนสายสุมเส้า-เพ็ญ พบว่าตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ พังเสียหายทั้งตู้ โดยคนร้ายได้ใช้แก๊สหัวตัด ตัดเจาะตัวตู้พังเสียหาย ขณะที่ด้านหลังของตู้เอทีเอ็ม พบสายแก๊สพร้อมหัวตัด ถังก๊าซหุงต้มสีเขียว และถังอ๊อกซิเจน ที่ตัวสายแก็ส ยังคงต่อไปกับถังแก็ส รอบ ๆ บริเวณมีกลิ่นไหม้ของเหล็กฉุนออกไปถึงนอกถนน และที่ด้านหลังของตู้เอทีเอ็มทั้ง 2 ตู้ ตู้ของธนาคารออมสิน มีร่องรอยถูกไฟหัวแก็สตัดพังเสียหาย ส่วนตู้ของธนาคารไทยพาณิชย์ สภาพถูกไฟเชื่อมตัดพังเสียหาย และถูกรื้อออก เพื่อนำกล่องใส่เงินออกไป นอกจากนี้กล้องวงจรปิดของร้านอาหาร ที่ติดไว้ส่องไปทางถนนหน้าร้าน ถูกคนร้ายปีนเก้าอี้ใช้ผ้าคลุมเอาไว้
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ของ บ.แซมโก้ จก. และ บ.G4S จก.ที่รับผิดชอบนำเงินใส่ตู้เอทีเอ็ม ได้เดินทางมาร่วมตรวจสอบ พบว่าในส่วนของตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ที่ บ.G4S จก.ดูแล ตัวตู้ด้านหลังถูกไฟตัดฝาด้านหลังเสียหาย แต่คนร้ายไปสามารถนำเงินที่มีอยู่ประมาณ 4 ล้านบาทไปได้ ส่วนหลังตู้เอทีเอ็มของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ บ.แซมโก้ จก.ดูแล หลังตู้ถูกไฟตัดพังเสียหายเช่นกัน แต่ภายในตัวตู้ถูกไฟตัดทำลาย และกล่องใส่เงินสด เป็นธนบัตรราคา 500 และ 100 บาท หายไป 3 ชั้น และที่ด้านหน้าตู้ก็ถูกคนร้ายใช้ไฟที่ต่อลอดออกมาจากช่องประตูเหล็กบานเลื่อน ใช้ไฟตัดพังเสียหาย อุปกรณ์ต่าง ๆ กองทิ้งที่ด้านหน้าตู้ คนร้ายได้เงินสด ไปประมาณ 160,000 บาท ส่วนกล่องใส่ธนบัตร 1,000 บาท ที่มีเงินเหลืออยู่ประมาณ 800,000 บาท คนร้ายไม่สามารถนำออกไปได้ เนื่องจากตัวกล่องละลายจนติดกับโครงเหล็กของตู้เอทีเอ็ม
สอบสวนนางทวินตรา ทรงคาศรี นายก อบต.สุมเส้า เจ้าของบ้านให้การว่า ตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสินมาฝากติดตั้ง 4 ปี ส่วนไทยพาณิชย์พึ่งต่อสัญญาได้ 2 ปี ตัวบ้านจะอยู่ห่างจากร้านอาหารและร้านขายของชำประมาณ 10 เมตร ก่อนเกิดเหตุ เมื่อคืนนี้มีฝนฟ้าคนองและไฟฟ้าดับหลายครั้ง จนทำให้กล้องวงจรปิดไม่บันทึกภาพ และเข้านอนประมาณ 22.00 น. ตลอดทั้งคืนก็ไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ แต่พอตื่นเช้ามาเปิดร้าน ก็พบว่าคนร้ายเข้ามายกถังแก๊สออกจากห้องครัวร้านอาหาร ไปตัดกุญแจประตูเลื่อนและตู้เอทีเอ็มจนได้รับความเสียหาย จึงแจ้งตำรวจ
พ.ต.อ.สุรินทร์ ชัยชมภู รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า คนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 3 คน และเป็นมืออาชีพ มาดูลาดเลาก่อนลงมือประมาณ 2 วัน เพราะคนร้ายรู้ทางเข้าออกและจุดติดตั้งกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายลงมืออย่างใจเย็นตั้งแต่เวลา 02.40 -05.16 น. ใช้เวลาปฎิบัติการ 3 ชั่วโมงครึ่ง ด้วยการนำถังอ๊อกซิเจน พร้อมสายและหัวตัดแก๊ส ซึ่งมีสภาพใหม่เอี่ยมเข้ามาทางรั้วด้านข้าง และเข้ามาลากถึงแก๊สหุงต้มในครัวร้านอาหาร ออกใช้ต่อกับถังอ๊อกซิเจน จุดไฟตัดกุญแจประตูเหล็ก โดยกล้องวงจรปิดหน้าร้านมินิมมาร์ทภายในปั๊มน้ำมัน สามารถจับภาพรถคนร้ายได้ เป็นรถยนต์กระบะนิสสัน ฟรอนเทีย สีขาว หรือสีบรอนซ์ หลบหนีไปทาง บ้านนาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งสั่งให้ตำรวจออกสืบสวนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานในรอบสัปดาห์ มีเหตุคนร้ายงัดตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ 2 ครั้งแล้ว โดยครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม คนร้ายไม่ต่ำกว่า 2 คน ใช้ขวานจามตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ หน้าบริษัทไทยฮั้วยางพารา จำกัด เลขที่148,148/1 หมู่15 ถนนนิตโย ต.โพนงาม อ.หนองหานได้เงินไป 81,400 บาท โดยทิ้งขวานและถุงมือ 3 ข้างไว้ให้ดูต่างหน้า และวันนี้ก็มาเกิดเหตุอีก ซึ่งน่าจะเป็นคนละกลุ่มกัน เพราะการลงมือก่อเหตุไม่เหมือนกัน