svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

'โค้ชเช'VS'น้องก้อย'ทำร้ายหรือทำโทษ?

19 กรกฎาคม 2557
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กลายเป็นโพสต์เดือด-กระทู้ร้อนมาหลายวัน เรื่องราวของ "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย วัย 40 ปี กับ "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักเทควันโดสาวทีมชาติไทย วัย 23 ปี

            น้องก้อย อ้างว่ารับไม่ได้ที่ถูก "โค้ชเช" ทำร้ายร่างกาย หลังแพ้นักกีฬาชาวเกาหลีใต้ 6-12 คะแนน จากการแข่งขันเทควันโดเหรียญทองแดงชิงแชมป์เอเชีย 2014 รุ่น 62 กิโลกรัม ในรายการโคเรีย โอเพ่น ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

           ข้อเท็จจริง "ใครผิดใครถูก" ยังไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ทว่า "น้องก้อย" และ "โค้ชเช" ต่างถูกกระแสสังคมออนไลน์รุมวิพากษ์วิจารณ์ทั้งสองฝ่ายอย่างดุเดือด บ้างต่อว่า "ก้อย" ไม่มีระเบียบวินัย บ้างก็ว่า แม้ว่า "ก้อย" จะไร้วินัย และไม่มีความเป็นมืออาชีพขนาดไหน "โค้ชเช" ก็ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกาย ควรลงโทษไปตามระเบียบ หรือตัดออกจากทีมชาติไป


                ขณะเดียวกัน ก็มีผู้ร่วมสืบหาความจริงในเรื่องนี้ อย่าง คุณ "achicacura" โพสต์กระทู้ผ่านเว็บไซต์พันทิปดอทคอมว่า ถึงเวลานักสืบพันทิป "โค้ชเช vs ก้อย" เรื่องนี้อาจจะมีคนอยู่เบื้องหลัง ผมกำลังประมวลเหตุการณ์อยู่ เริ่มมีตัวละครออกมาบ้างล่ะ หลังจากนั้นผมไปเจอคลิปเสียงนี้ ของผู้ปกครองเด็กในทีมโค้ชเช ...โปรดใช้วิจารณญาณ กันเองนะครับ !!

                "กระแสสังคมมันก็ดังแค่ข้ามคืน กระแสตีกลับมันแรงกว่า คือเด็กมันยังไม่ผูกพันกับสมาคม คุณพิมลยังไม่รู้ด้วยซ้ำเด็กคนนี้ติดทีมชาติเข้ามา แล้วมาด้วยลายเส้น คือเหมือนกัน เด็กคนนี้เคยโตกับยิมอารีซี แต่ยิมแชมเปี้ยนไปเทคโอเวอร์มาต้นปี แล้วเด็กนี่ยังไม่ผูกพันกับโค้ชเดอะแชมเปี้ยนซะด้วยซ้ำ มีอะไรก็โทรหาอาจารย์พิทักษ์ เขาไม่ชอบโค้ชเชส่วนตัวอยู่แล้ว ก็ยุเอาเรื่องให้ถึงที่สุดอย่างโน้น อย่างนี้ กลายเป็นเรื่องเป็นราวกัน โค้ชเขาก็ตีปกติอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ตีเพราะความเกลียด ตีเพราะคุณไม่พร้อม คือ ช่วงโมโห อาจจะโมโหตบหน้า หรืออะไรก็โดนกันทุกคน

                แต่นี่เป็นรุ่นพี่ ลืมไอดีการ์ด ลืมฟันยาง ลืมทุกอย่าง มันไม่ถูกหรอก นักกีฬาต้องเตรียมพร้อม นักกีฬาเป็นนักกีฬาต่อสู้ โดนแค่นี้จิ๊บๆ แหม่ ลูก...โดนท่อพีวีซีตีก้น ก่อนที่เราจะประจานเขา ต้องถามลูกเราว่าพร้อมจะอยู่ตรงนั้นไหม..." คุณ "achicacura" แชร์ลิงค์คลิปมาจากเฟซบุ๊กแห่งหนึ่ง พร้อมแกะข้อความจากคลิปเสียงดังกล่าว อ้างว่าเป็นคลิปเสียงผู้หญิง

                คุณ "ongreen" มองว่า ที่จริงเรื่องนี้ สมาคมน่าจะจัดการเป็นเรื่องภายใน ไม่ควรให้เด็กหรือคนอื่นๆ ออกมาพูด ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ รอดูว่าสมาคมจะจัดการอย่างไร ส่วนตัวเชื่อว่าโค้ชเชน่าจะกลับมาทำต่อ แต่ตอนนี้อาจจะเสียกำลังใจบ้าง นอกจากว่าจะมีการเลื่อยขาตำแหน่งโค้ชกัน หรือเส้นสายจากภายนอกที่ทำให้โค้ชเชทำงานลำบาก จึงไม่อยากกลับมา

                ด้านเฟซบุ๊ก "วิว" เยาวภา บุรพลชัย ได้เขียนถึงประสบการณ์วันแรกที่เจอ "โค้ชเช" เมื่อปี 2545 และยอมรับว่า โค้ชมีวิธีการต่างๆ นานา ที่จะดึงศักยภาพของเธอออกมา ทั้งกดดัน กระตุ้น ดุด่า ปลุกใจ ให้กำลังใจ หรือแม้แต่ลงโทษ ที่ทำให้ต้องเจ็บทั้งตัวและหัวใจ

                "ยอมรับนะคะเวลาฝึกซ้อมโค้ชลงโทษหนักจริงๆ การฝึกซ้อมก็หนัก การร้องไห้ตอนซ้อมเป็นเรื่องปกติ บอกอย่างไม่อาย น้ำตากับเหงื่อมันปนกัน จนแยกไม่ออก เวลาที่เล่นไม่ถูกใจ เนือย เอื่อย โค้ชก็เรียกมาเข้าคู่ ใส่อุปกรณ์ป้องกัน ไม่ใส่บ้าง เรียกมาเตะ ให้โอกาสเราสู้ แต่แรกๆ สู้ไม่ได้เลย แรงน้อยกว่า ช้ากว่า เตี้ยกว่า ยิ่งเตะกับโค้ชเตะไปเค้าก็หลบได้ แรงหมด พอยิ่งทำท่าหมดแรง โค้ชก็ยิ่งเตะ เตะจริงๆ ไม่ได้ยั้ง เคยโดนเตะปากแตก เลือดกำเดาไหล ตาปิดไปข้างนึง หน้าบวม โดนเตะท้องลงไปชักดิ้นชักงอ ก็บ่อย วิวซ้อมแบบนี้กับโค้ชทุกวัน เพราะถูกเรียกทุกวัน ร้องไห้ทุกวัน ร้องในสนาม ร้องไห้ในห้องน้ำ เวลาซ้อมไม่มีคำว่าผู้หญิงผู้ชาย ทุกคนเท่ากันหมด ยอมรับในใจลึกๆ โกรธโค้ช ว่าต้องทำถึงขนาดนี้.."

                "น้องวิว" ย้อนถึงช่วงเวลาที่ "โค้ชเช" เคี่ยวกรำให้เธอได้เหรียญในเอเชี่ยนเกมส์ รวมถึงในรายการต่างๆ จนกระทั่งเหรียญประวัติศาสตร์ในโอลิมปิกเกมส์ และบอกทิ้งท้ายว่า "โค้ชเช" พูดเสมอว่า ความฝันสูงสุดของโค้ช คือ "คนไทยได้เหรียญทองโอลิมปิก" อยากให้โค้ชอยู่ทำความฝันให้เป็นจริง และเมื่อวันนั้นมาถึง เราคนไทยทุกคนจะได้มีความสุขพร้อมกันทั้งประเทศ !!

logoline