เบื้องหลัง เยอรมัน คว้าแชมป์โลก 2014
หลังคว้าแชมป์มาครอง โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ของเยอรมนี ยกย่องสปิริตของลูกทีมทำให้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งนี้ได้ สำหรับทีมชุดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลาถึง 10 ปี ผ่านความผิดหวังมาหลายครั้ง
หลังจากสามารถเข้ารอบลึกๆ ในรายการใหญ่มาตลอด ทั้งฟุตบอลโลก และฟุตบอลยูโร แต่ต้องไปพลาดในเกมสำคัญ ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ต้องยกให้ทั้งทีมที่เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมตลอด 7 เกม รวมทั้งขอขอบคุณแฟนบอลชาวบราซิลที่ยังเชียร์เยอรมนีอีกด้วย
"เราอยู่ด้วยกันมา 55 วัน แต่เราเริ่มโครงการมาตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนที่ผมมาทำงานกับ เจอร์เกน คลินส์มันน์ (อดีตบุนเดสเทรเนอร์) และเป็นงานที่หนักมาก เราสามารถพัฒนาการเล่นขึ้นมาตลอด ทีมสมควรได้รับรางวัลจากจุดเริ่มต้นของนักเตะอย่าง ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, ลูคัส โพโดลสกี และแพร์ แมร์เตซัคเกอร์ ในอดีตเราเจอกับความผิดหวังทั้งที่เข้าใกล้เป้าหมายแล้ว ผมคิดว่าเราเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอด 7 แมทช์ ในฟุตบอลโลกหนนี้ ทีมนี้พัฒนาขึ้น และสิ่งเหลือเชื่อคือเรื่องของสปิริต รวมทั้งสภาพจิตใจที่แข็งแกร่ง เราภูมิใจที่เป็นทีมจากยุโรปทีมแรกที่มาคว้าแชมป์ในอเมริกาใต้ ที่บราซิล ในริโอ ประเทศซึ่งรักฟุตบอลอย่างยิ่ง สิ่งนี้ทำให้เราภูมิใจมาก"
นอกจากนั้น เลิฟ ยังกล่าวถึงตอนที่ส่ง เกิทเซ ลงสนามในช่วงท้ายเกม โดยบอกกับกองกลางดาวรุ่งจากบาเยิร์น มิวนิค ว่า ให้ลงไปพิสูจน์ว่าเขาเก่งกว่าเมสซี่
"ผมบอกว่า เกิทเซ ว่า "ลงสนามไปแล้วแสดงให้โลกรู้ว่านาายเก่งกว่าเมสซี" เกิทเซ คือเด็กมหัศจรรย์ เขาคือคนที่น่าพิศวงมาก สามารถเล่นได้หลากหลายตำแหน่ง เป็นคนที่กล้าตัดสินใจ ที่พร้อมกับสร้างความแตกต่าง นั่นคือสิ่งที่เขาทำในนัดนี้" ด้าน เกิทเซ ที่ได้รับตำแหน่งแมนออฟเดอะแมทช์ในครั้งนี้กล่าวว่า เป็นความรู้สึกที่เหลือเชื่อ ไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมาได้ว่าอย่างไร เมื่อเป็นคนยิงประตูอย่างนั้น แล้วไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ความฝันเป็นจริงกับการได้แชมป์ฟุตบอลโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บราซิล
ขณะที่มีรายงานว่าการคว้าแชมป์ของเยอรมนี ทำให้นักเตะทีมอินทรีเหล็กจะได้โบนัสจาก สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเยอรมนี (เดเอฟเบ) เป็นเงินคนละ 240,000 ปอนด์ (ประมาณ 12 ล้านบาท) ส่วนทีมเยอรมนี ได้เงินรางวัลจากฟีฟ่า ในฐานะแชมป์ ทั้งหมด 20.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,025 ล้านบาท) ขณะที่ อาร์เจนตินา ได้เงินรางวัล 14.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 730 ล้านบาท)