โดยหันหัวเรือมุ่งหน้าสู่จังหวัดเกาะสอง ประเทศเมียนม่าร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเรือ รน.32 ได้นำเรือแล่นออกไปตรวจสอบเบื้องต้น และนำเรือต้องสงสัยมาเทียบเรือตรวจการ 635 ที่ได้ตั้งด่านจุดตรวจสกัดบริเวณแพธงไทยดีปากร่องน้ำปากน้ำระนอง เพื่อทำการตรวจสอบเรือไม้บรรทุกสินค้าชื่อยามาโมโต้ ขนาดกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวประมาณ 27 เมตร ลึกประมาณ 3 เมตร พร้อมเครื่องยนต์ขนาด 186 แรงม้า
จากการตรวจค้นพบนายเชะ อายุ 29 ปี ผู้ควบคุมเรือ นายเว อายุ 30 ปี ผู้จัดการเรือหรือตัวแทนเจ้าของเรือ และลูกเรืออีก 4 คน ได้แก่ นามิ อายุ 42 ปี นายนาย อายุ 38 ปี นายอ่าว อายุ 30 ปี และนายเว อายุ 23 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวเมียนม่าร์ และถังแก็สหุงต้ม ซึ่งภายในบรรจุแก็สหุงต้ม น้ำหนักประมาณถังละ 45-48 กิโลกรัม จำนวน 29 ถัง วางซุกซ่อนอยู่บริเวณกลางลำเรือ ซึ่งมีลังผลไม้ทับและผ้าใบคลุมอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารที่ใช้ประกอบการนำสินค้าออกนอกราอาณาจักร ปรากฏว่าไม่มีเอกสารใดๆ มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบและสอบถามชาวเมียนม่าร์ที่ถูกจับยอมรับว่าจะนำแก็สไปขายที่บริเวณจังหวัดมะริด ประเทศเมียนม่าร์ ซึ่งสินค้าดังกล่าวไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากรแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันนำหรือพาสินค้าที่มิได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรออกนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตและควบคุมตัวผู้ถูกจับพร้อมของกลางส่ง สภ.ปากน้ำระนองดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป