เกมนี้ "อินทรีเหล็ก" มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นหลายตำแหน่ง โดยให้ มิโรสลาฟ โคลเซ ดาวยิงตัวเก๋าลงเล่นเป็นตัวจริง และขยับ ฟิลิปป์ ลาห์ม กลับไปเล่นเป็นแบ็คขวา เพื่อเปิดทางให้ "ชไวนี" บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ยืนเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับคู่กับ ซามี เคดิรา ก่อนจะได้ประตูชัยจากจังหวะที่ โทนี โครส เปิดลูกฟรีคิกให้ มัตส์ ฮุมเมลส์ ขึ้นโหม่งเช็ดเข้าไปตุงตาข่ายตั้งแต่นาที 12 แม้ว่าหลังจากนั้น "ตราไก่" จะมีโอกาสลุ้นยิงประตูได้หลายครั้ง แต่แนวรับของทัพลูกหนังเมืองเบียร์สามารถป้องกันเอาไว้ได้ทั้งหมด ส่งผลให้ เยอรมนี ทะลุผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศได้เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน และจะได้พบกับ ในวันอังคารที่ 8 กรกฎาคมนี้ ส่วน ฝรั่งเศส ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รอบนี้เท่านั้น