รวบ 2 ผัวเมีย "ลีซอ" ของกลางยาบ้า 9.4 หมื่นเม็ด

เมื่อเวลา 10.45 น. วันนี้ (2 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัส รองผบช.ภ.5 ในฐานะ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่  พล.ต.ชาตรี เศรษฐกร หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสองสามีภรรยา ชาวเขาเผ่าลีซอ คือ  นายวีรชาติ สุข อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 268 หมู่ 12 ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และนางสาวเหมย จะอื่อ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 264 หมู่ 9 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ในข้อหาค้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1( ยาบ้า) ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 5
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า สายลับในพื้นที่สืบทราบมาว่ามีชาวเขาค้ายาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จึงได้มอบหมายให้สายลับติดต่อล่อซื้อ โดยกลุ่มผู้ต้องหาค้ายาเสพติดยินยอมจำหน่ายยาบ้าครั้งนี้เป็นเงิน 5 ล้านบาท จำนวน 9.4 หมื่นเม็ด โดยให้เครดิตสายลับชำระเงินค่ายาบ้าในภายหลัง ซึ่งคาดว่ากลุ่มผู้ค้ายามีความจำเป็นต้องระบายยาบ้าออกสู่ตลาดให้เร็วที่สุด เพราะอาจเกรงกลัวเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่เร่งปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ค้ายาได้นัดหมายส่งมอบยาบ้าในพื้นที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ แต่เนื่องด้วยทางเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้มในพื้นที่ มีการตั้งด่านตรวจและปิดล้อมตรวจค้นอย่างหนัก จึงนัดหมายส่งมอบในพื้นที่เขต อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย และเมื่อถึงเวลานัดหมาย นายวีรชาติ และนางสาวเหมย ได้ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Lifan รุ่น PK110 สีส้มดำ ทะเบียน 1ก 9552-เชียงใหม่ พร้อมนำยาบ้า 9.4 หมื่นเม็ดใส่กระสอบปุ๋ยมาด้วย เมื่อมีการส่งมอบของกลางทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ด้านผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างขนยาบ้าเป็นเงิน 1 แสนบาท
พล.ต.ต.ธนิตศักดิ์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้ถือเป็นเครือข่ายกลุ่มผู้ค้ายาบ้านแม่ปูนหลวง อ.เวียงป่าเป้า ซึ่งเป็นเครือข่ายของนายจะเล่อ ที่เป็นพ่อค้ายาบ้ารายใหญ่พื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย อ.พร้าว และอ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ อีกทั้งยาบ้าที่ยึดได้ในครั้งนี้ถือเป็นยาบ้าแบบใหม่ที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน เมื่อนำแสงไฟมาส่องจะพบประกายระยิบระยับและมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทรุนแรงกว่ายาบ้าปกติ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจะเข้มงวดในการปรามปรามยาเสพติดในพื้นที่มากขึ้นตามนโยบายของ คสช.ต่อไป